ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ดาวโจนส์-หุ้นเหมืองแกร่ง ดันฟุตซี่ปิดบวก 39.4 จุด

          ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้น 39.4 จุดเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุด เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้นั้น จะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 39.4 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 6,506.2 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,419.2-6,514.5 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.68 พันล้านหุ้น
          สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมการผลิตของโรงงานทั่วประเทศ ลดลงสู่ระดับ 52.0 จุด ในเดือนก.ย. จาก 52.9 จุด ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลงสู่  52.6 จุด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนต.ค.
          ส่วนภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนนั้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นได้ช่วยกระตุ้นหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเวดันตาทะยานขึ้น 100 เพนซ์ ปิดที่ 1,505 เพนซ์ และหุ้นคาซัคมิสบวกขึ้น 97 เพนซ์ ปิดที่ 2,127 เพนซ์
          นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาโลหะทองแดงที่พุ่งสูงขึ้น เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงและเหตุการณ์ประท้วงที่เหมืองทองแดงในเปรู โดยหุ้นอันโตฟากัสต้าพุ่งขึ้น 40.5 เพนซ์ ปิดที่ 748 เพนซ์ หุ้นแองโกล อเมริกัน บวกขึ้น 71 เพนซ์ ปิดที่ 3,360 เพนซ์ และหุ้นเอ็กสตราต้าทะยานขึ้น 118 เพนซ์ ปิดที่ 3,362 เพนซ์
          หุ้นเทท แอนด์ ไลล์ทะยานขึ้น 9.4% เพราะได้รับแรงหนุนจากกระแสข่าวเรื่องการเสนอซื้อกิจการ โดยเทท แอนด์ ไลล์เป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำตาลและสารเพิ่มความหวาน อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อข่าวดังกลาว