นายสุรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) (CNT) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 64 ที่ไม่ต่ำกว่า 6,700 ล้านบาท แม้ว่าจะยังมีผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถือว่าควบคุมได้ค่อนข้างยาก ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างชะลอตัวลงทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน แต่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) รวมกว่า 10,113 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบและรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ไม่น้อยกว่า 50% ของมูลค่างานทั้งหมด พร้อมกันนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชนรวมูลค่า 11,500 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการก่อสร้างอาคารหน่วยงานภาครัฐราว 3,500 ล้านบาท งานโครงสร้างพื้นฐานและทางด่วนไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท งานก่อร้างอาคารและคลังสินค้าในนิคมอุตสาหกรรมราว 2,500 ล้านบาท งานก่อสร้างอาคาร โรงพยาบาล สำนักงาน มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งจะทยอยรู้ผลการประมูลในช่วงที่เหลือของปีนี้ ในส่วนงานภาครัฐที่มีโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมามูลค่ากว่าแสนล้านบาท ที่ผ่านมาบริษัทจะเน้นรับช่วงงานจากผู้รับเหมาขนาดใหญ่ (sub-contract) มากกว่า ทำให้การรับงานโดยตรงมีไม่มาก จจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรผู้รับเหมารายใหญ่ เพื่อร่วมลงทุน (JV) แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และเพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าประมูลงานใหม่ๆ โดยเฉพาะงานขนาดใหญ่ของภาครัฐ คาดว่าจะมีข้อสรุปการ JV เร็วๆนี้ นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงขยายงานด้านพลังงานและติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ (EPC) ทั้งรูปแบบติดตั้งบนหลังคาโรงงาน (Solar Rooftop) โซลาร์ลอยน้ำ และโซลาร์ติดตั้งภาคพื้นดิน เป็นต้น ที่ผ่านมาได้เริ่มรับงานเข้ามาบ้างแล้ว โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/64 บริษัทได้รับงานใหม่เข้ามามูลค่ารวมกว่า 220 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 50% ของการรับงานในปี 63 ที่ราว 400 ล้านบาท โดยมองว่ายังมีโอกาสการขยายงานส่วนนี้อีกมาก และเป็นอีกโอกาสที่จะสร้างรายได้เพิ่มให้แก่บริษัท "จะเห็นว่าเป้าหมายของรายได้เราในปีนี้อยู่ที่ 6,700 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อนที่เรามีรายได้ 7,525 ล้านบาท ซึ่งรูปแบบการรับงานของบริษัทในปัจจุบันจะไม่เน้นการรับงานจำนวนมากๆ เหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่บริษัทจะเน้นการหางานที่สามารถสร้างกำไรให้แก่บริษัทได้มากกว่า"นายสุรศักดิ์ กล่าว