นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 64 เพิ่มขึ้นจากเดิมคาดว่าจะเติบโตราว 40-45% เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศเริ่มคลี่คลาย และภาพรวมเศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัว ส่งผลให้ความต้องการการขนส่งปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นทั้งการขนส่งทางเรือและการขนส่งทางอากาศ พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงได้ประโยชน์จากปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากบริษัทมีพันธมิตรทางธุรกิจจำนวนมาก และปริมาณการขนส่งจำนวนมาก ส่งผลให้สามารถเจรจาเพื่อนำตู้คอนเทนเนอร์มาให้บริการกับลูกค้าได้เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จะยืดเยื้อไปอย่างน้อยช่วงปลายปี 64 ล่าสุดบริษัทเซ็นสัญญาร่วมมือทางธุรกิจและเป็นตัวแทนในประเทศไทยของ China Post Yunnan ภายใต้ China Post Group ในการพัฒนาธุรกิจการขนส่งสินค้าพัสดุและไปรษณีย์ภัณฑ์ โดยเฉพาะการพัฒนาธุรกิจการขนส่งสินค้า E-commerce ระหว่างประเทศ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็น General Sales Agent (GSA) ของสายการบิน China Postal Airline ซึ่งให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศจากกรุงเทพไปยังเมืองคุนหมิง ประเทศจีน
การร่วมมือกับ China Post ครั้งนี้จะเข้ามาช่วยหนุนรูปแบบการให้บริการขนส่งใหม่ๆเพิ่มขึ้น และเพิ่มกลุ่มของลูกค้าที่มีความหลากหลาย ซึ่งจะเริ่มมีรายได้เข้ามาทันทีในช่วงไตรมาส 2/64 นี้ "ภาพรวมความต้องการการขนส่งปกติแล้วจะมีจำนวนมากที่สุดในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 เพื่อที่จะตุนสินค้ารองรับช่วงปลายปีและต้นปีถัดไป ซึ่งในปีนี้หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศต่างๆเริ่มคลี่คลายก็ยังคงหนุนความต้องการสินค้าจำนวนมาก และการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่เราสามารถแก้สถานการณ์ได้ รวมถึงเราได้ China Post มาเป็นพันธมิตร จะช่วยหนุนการเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้"นายเกตติวิทย์ กล่าว บริษัทคาดว่าผลประกอบการในปี 65 จะสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดจากปีนี้ โดยจะสามารถรับรู้รายได้จากการเป็นพันธมิตรกับ China Post เต็มปี ในขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการเข้าพัฒนาลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด 31 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด กม. 21 จะแล้วเสร็จและเริ่มให้บริการในช่วงปลายไตรมาส 4/64 และโครงการบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า (LEO Self Storage) แห่งใหม่บนถนนเจริญกรุง ขนาด 2,000 ตารางเมตร จะแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส 4/64 นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการ 2-3 ราย โดยในปีนี้บริษัทมีเป้าหมายที่จะเข้าซื้อกิจการที่ให้บริการการขนส่งทางอากาศ เนื่องจากได้มีการเจรจามาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงชะลอไป แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย บริษัทจึงเริ่มกลับมาเจรจาอีกครั้ง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4/64 นี้ "ด้วยการเติบโตแบบปกติของธุรกิจแล้ว และเรายังมีพันธมิตรใหม่ๆ รวมไปถึงการเข้าซื้อกิจการเข้ามาเพิ่มเติม เชื่อว่าจะช่วยหนุนการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่องใน 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งในปี 65 นี้เราจะสามารถรับรู้รายได้เต็มปีเข้ามาจากโครงการต่างๆที่เราได้ทำไปจะให้เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อเนื่องจากปีนี้"นายเกตติวิทย์ กล่าว