นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่าการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำรอบนี้ส่งผลให้แนวโน้มการเคลื่อนไหวของทองคำเป็นขาขึ้นทั้ง ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว จากก่อนหน้านี้มีเพียงแนวโน้มระยะยาวเท่านั้นที่เป็นขาขึ้น แต่ระยะกลางระยะสั้นยังมีความผันผวน
สาเหตุของการที่ราคาทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นรอบนี้มาจากปัจจัยหลักที่ค่าเงินดอลลารร์สหรัฐอ่อนค่าเป็นขาลงชัดเจน ทำจุดต่ำสุดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเงินการคลังของสหรัฐที่เป็นปัจจัยเร่งเงินเฟ้อจนบั่นทอนกำลังซื้อของดอลลาร์ และการคาดการณ์ว่าเฟดยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย
อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นทองคำยังสามารถเล่นรอบในทิศทางขาขึ้นได้ โดยมองว่าจุดที่สามารถเข้ามารับได้คือแนวรับ 1,870 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับถัดไปคือ 1,860 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ 27,700-27,550 บาท ส่วนแนวต้านมองว่าหากผ่านระดับสูงสุดที่ 1,913 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ 28,350 บาท ก็มีโอกาสไปต่อได้ โดยมีต้านถัดไปที่ 1,927-1,934 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ 28,600-28,700 บาท
YLG ระบุว่า แม้ทิศทางทองเป็นบวกแต่ไม่แนะนำให้ไล่ราคาเนื่องจากทองคำเข้าข่ายซื้อมากเกินไป สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าซื้อควรรอจังหวะย่อตัว และทยอยขายทำกำไรเป็นระยะเพื่อลดความเสี่ยง
นอกจากนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนทองคำให้เป็นบวกในช่วงนี้ยังมาจากกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่ เริ่มกลับเข้าซื้อทองคำ โดยในเดือน พ.ค.กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำรวม 27 ตัน ขณะเดียวกันยังมีเม็ดเงินจากตลาดคริปโตที่ปรับตัวลดลงในช่วงนี้ไหนเข้าตลาดทองคำบางส่วน
ทั้งนี้จากการผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ที่มีผลต่อราคาทองคำ ส่งผลให้การลงทุนทองคำในตลาด TFEX ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากไม่มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน