นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) (TOA) เปิดเผยว่าบริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% หรือราว 17,000 ล้านบาท จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 16,200 ล้านบาท เป็นผลมาจากยอดขายในประเทศที่คาดว่าจะเติบโต 5% และยอดขายต่างประเทศที่คาดว่าจะเติบโต 20% ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการกระจายวัคซีน แต่ยังคงต้องจับตามองสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งในไทยและต่างประเทศ
โดยในเดือนมิ.ย. ทางบริษัทจะทยอยปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 3-10% โดยจะปรับเพิ่มทั้งหมด 80% ของสินค้าในพอร์ต เนื่องจากราคาน้ำมันและราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายจตุภัทร์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะเน้นไปที่การขายสินค้าออนไลน์และการเพิ่มช่องทางจำหน่าย โดยที่ผ่านมาได้จัดทำ WHO Service รวบรวมผู้รับเหมามืออาชีพให้มาแต่งเติมหรือซ่อมแซมบ้าน ปัจจุบันมีจำนวนผู้รับเหมา 163 ทีม และมีช่องทางติดต่อหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น Facebook, Youtube, Line หรือเว็บไซต์ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค รวมไปถึงการปรับกลยุทธ์การขายที่ปัจจุบันจะแบ่งทีมขายออกเป็น 2 ทีม ได้แก่ ทีมสี และ ทีมวัสดุก่อสร้าง เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจวัสดุก่อสร้างในอนาคตอีกด้วย
และ Mega paint & Home ที่ตั้งสาขาแรกที่ City Home Mart Bang Bon ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี มีลูกค้าให้ความสนใจและเข้ามาสอบถาม โดยสาขาที่ 2 จะดำเนินการก่อสร้างเสร็จในไตรมาส 3/64 นี้ และปีนี้ตั้งเป้าขยายให้ได้ถึง 15 สาขา โดยจะหาทางทำรูปแบบร้านให้มีขนาดเล็ก เพื่อจะได้ประหยัดเงินลงทุน
ด้านบริษัท เมกา เพ้นท์ แอนด์ โฮม จำกัด (MGPH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TOA ถือหุ้น 100% ได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัท ภชา เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (PCE) และบริษัท ภาวตรี อินเตอร์เทรด จำกัด (PWT) ในสัดส่วน 52% โดย PCE และ PWT ประกอบกิจการนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระเบื้อง ซึ่งสินค้าส่วนมากนำเข้าจากประเทศอินเดียและบางส่วนจากประเทศจีนและเวียดนาม โดยทาง TOA ซึ่งชำนาญด้านการจัดจำหน่าย จะดำเนินการในส่วนของการกระจายสินค้า โดยเฉพาะการขายในงานโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาบ้างแล้ว
ส่วนงบลงทุนปีนี้อยู่ที่ 400-500 ล้านบาท จะใช้สำหรับการปรับปรุงโรงงานที่ค่อนข้างเก่า, การติดตั้งระบบ Auto แทนระบบmanual มากขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มกำลังการผลิตและการสร้าง Warehouse แต่อย่างไรก็ตาม บางโครงการได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้อาจจะต้องชะลอออกไปเป็นช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้า