EPG เผยงวดปี 63/64 กำไรโต 22% แม้รายได้หด หลังใช้กลยุทธ์ USE ดันมาร์จิ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 28, 2021 10:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รศ.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปีบัญชี 63/64 (1 เม.ย.63-31 มี.ค.64) บริษัทมีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 9,569.2 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 10,217.4 ล้านบาท หรือลดลง 6.3% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 31.2% สูงกว่าเป้าหมาย และมีกำไรสุทธิ 1,221.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 999.3 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้ แบ่งเป็น AEROKLAS 46.7% AEROFLEX 27.5% และ EPP 25.8%

"ปีบัญชี 63/64 นับเป็นปีที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก ด้วยปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งสาธารณสุข เศรษฐกิจ สังคม และการดำเนินชีวิตของประชาชน ภาครัฐในหลายประเทศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อจำกัดการแพร่ระบาด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

บริษัทได้ปรับแผนธุรกิจและออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อรับมือกับวิกฤติที่เกิดขึ้น เช่น การนำนโยบายลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หรือ นโยบาย USE มาใช้บริหารงานภายในองค์กร คือ U: Utilization ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า S:Save ประหยัดค่าใช้จ่าย และ E: Efficiency เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทุกด้าน

พร้อมทั้งรักษาสภาพคล่องและสถานะทางการเงิน มีการทบทวนแผนการลงทุน รวมถึงมีการใช้สิทธิประโยชน์จากมาตรการบรรเทาผลกระทบที่ได้จากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อลดผลกระทบจากการดำเนินงานให้ได้มากที่สุด

สำหรับผลการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังนี้

ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีรายได้จากการขายรวม 2,626 ล้านบาท หรือลดลง 12.8% จากปีก่อน ยอดขายในประเทศยังเติบโตช้าตามการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง เนื่องจากภาคเอกชนยังคงชะลอการลงทุน อีกทั้ง เกิดความล่าช้าจากกระบวนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ขณะที่ยอดขายตลาดในสหรัฐอเมริกาปรับตัวดีขึ้นเทียบกับปีก่อน ส่วนยอดขายในเอเชียทยอยฟื้นตัว

ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeroklas มีรายได้จากการขายรวม 4,471.4 ล้านบาท หรือลดลง 5.4% จากปีก่อน ยอดขายกลุ่มบริษัทแอร์โรคลาส ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มากที่สุดในช่วงไตรมาสแรกของปีบัญชี 63/64 (1 เม.ย.-30 มิ.ย.63) ส่งผลให้กลุ่มลูกค้า OEM ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายแห่งในประเทศประกาศหยุดการผลิตชั่วคราวตั้งแต่สิ้นเดือนมี.ค.ถึง พ.ค.63

อีกทั้ง กลุ่มลูกค้าต่างประเทศที่มีความต้องการซื้อลดลง รวมถึงความล่าช้าจากกระบวนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ แต่เมื่อสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มปรับตัวดีขึ้น กลุ่มบริษัทแอร์โรคลาส สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเพื่อรับกับความต้องการยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศทำให้ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ในปีบัญชีก่อนหน้ากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน

สำหรับธุรกิจในประเทศออสเตรเลียมียอดขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์เพิ่มขึ้น เนื่องจากคนออสเตรเลียนิยมท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น อีกทั้งเริ่มเห็นผลงานที่ดีขึ้นอย่างมากจากการบริหารจัดการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย และสร้างเสริม Synergy ระหว่างธุรกิจ

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มีรายได้จากการขายรวม 2,471.9 ล้านบาท หรือลดลง 0.3% จากปีก่อน แม้ว่าบริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด จะได้รับผลกระทบจากการอุปโภคบริโภคภายในประเทศลดลง จากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 แต่อย่างไรก็ตามบริษัทได้รับประโยชน์จากยอดขายของบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหารซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากความต้องการของผู้บริโภคในยุควิถีใหม่ (New Normal) ที่นิยมสั่งอาหารแบบจัดส่งถึงที่ (Delivery) หรือซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้านมากขึ้น อีกทั้งได้รับประโยชน์จากมาตรการภาครัฐเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ

ในปีบัญชีนี้บริษัทมีรายได้อื่นที่ 158.5 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากมาตรการช่วยเหลือทางการเงินของรัฐบาลต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และ ออสเตรเลีย ซึ่งบริษัทย่อยตั้งอยู่ ภายใต้โครงการสนับสนุนการจ้างงานของกิจการ (Jobs Keeper Program)ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

บริษัทมีต้นทุนขายสินค้าลดลง 9.1% จากปีก่อน โดยได้รับผลประโยชน์จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง และการบริหารจัดการให้ต้นทุนในการผลิตลดลง มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 6% จากปีก่อน ซึ่งบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมการบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า 92.6 ล้านบาท ลดลง 27% เนื่องจากบริษัทได้รับส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า ในไตรมาสแรกของปีบัญชี 63/64 (1 เม.ย.-30 มิ.ย.63) จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าฟื้นตัวต่อเนื่องภายในปีบัญชีจากการดำเนินงานที่ดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ