นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.วีจีไอ (VGI) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 64/65 (เม.ย.64-มี.ค.65) ที่ 3,800-4,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 50% จากงวดปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ในช่วง 20-25% จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสถานการณ์ต่างๆ เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากแรงสนับสนุนด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงแผนการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตลอดทั้งปีนี้
ขณะที่บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสร้างเสถียรภาพทางการเงิน เพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัทฯ เพื่อสร้างความพร้อมรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 63/64 (เม.ย.63-มี.ค.64) บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 2,480 ล้านบาท ลดลง 38.0% จากปีก่อน โดยธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีรายได้ 1,540 ล้านบาท และธุรกิจบริการด้านดิจิทัลมีรายได้ 940 ล้านบาท เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนัก ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง และเกิดความเสียหายต่อภาคธุรกิจและประชาชน ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 980 ล้านบาท
ส่วนทิศทางดำเนินงานและพัฒนาการสำคัญของกลุ่มบริษัท ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน แม้ในปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยังคงมุ่งหน้าพัฒนาแคมเปญด้านการตลาดและปรับปรุงสื่อโฆษณาอย่างต่อเนื่อง, ธุรกิจบริการชำระเงิน VGI ได้ขยายการให้บริการด้านดิจิทัลและออนไลน์อย่างต่อเนื่องผ่านกลุ่มแรบบิทที่เป็นผู้นำด้านดิจิทัลโซลูชั่นส์ที่เข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบดิจิทัลและส่งเสริมการเติบโตให้แก่กลุ่มบริษัทฯ โดยมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน Rabbit card มีจำนวน 14.2 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 9.0% จาก 13 ล้านใบ และ Rabbit LinePay มีจำนวนทั้งสิ้น 8.2 ล้านราย เพิ่มขึ้น 11.8% จาก 7.3 ล้านรายในปีก่อน
ด้านธุรกิจโลจิสติกส์ VGI เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้การโฆษณาเกี่ยวกับการ IPO ของ บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) (KEX) มีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านการใช้สื่อโฆษณาของกลุ่มบริษัทฯ ในทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงร่วมกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการส่งสินค้าตัวอย่างและการให้บริการโฆษณาผ่าน Parcel Sticker มากกว่า 1.6 ล้านชิ้น การให้บริการโฆษณาบนรถขนส่งพัสดุของ Kerry จำนวนกว่า 700 คัน รวมถึงการเปิดตัวร้านให้บริการจัดส่งพัสดุ (Parcel Shop) บน 4 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และยังแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกันที่เรียกว่า Driver Handover