นายกานต์ดนัย ชลสุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการด้านบัญชีและการเงิน บมจ.ไมโครลิสซิ่ง (MICRO) เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 จะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะเป็นช่วง Low Season เนื่องจากประชาชนมีความกังวลต่อโควิด-19 ระลอกสามน้อยลง และยอดปล่อยสินเชื่อในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ยังเป็นไปตามเป้าหมาย
ขณะที่แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมเน้นการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มก่อสร้างมากขึ้น เนื่องจากโครงการภาครัฐต่าง ๆ จะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ EEC หรือ โครงการทางหลวง ซึ่งจะส่งผลดีสำหรับสินเชื่อรถมือสอง
ดังนั้น ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 30% หรือราว 4,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 5,000 ล้านบาทในปี 65 จากการขยายสาขาเป็นไปตามแผน โดยเดือนมิ.ย.นี้ เตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มในโซนภาคเหนือ และในพื้นที่ที่ภาคอุตสาหกรรมเติบโตค่อนข้างดีและมีเต๊นท์รถค่อนข้างมาก ซึ่งจะเป็นพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้จะมีสาขาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16 สาขา จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 14 สาขา
บริษัทวางเป้าหมายขยายสาขาเพิ่มเป็น 20 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 65 เนื่องจากปัจจุบันบางสาขาต้องดูแลลูกค้า 4-5 จังหวัด ทำให้มีระยะทางค่อนข้างไกลในการเดินทาง หากขยายสาขาได้ตามแผนที่วางไว้ ก็จะลดต้นทุนการเดินทางของพนักงานได้ อย่างไรก็ตาม สาขาที่ทำผลงานได้ดีในไตรมาส 1/64 ที่ผ่านมา ยังคงเป็นสาขาในภาคกลางเหมือนปีก่อน เพราะมีลูกค้าค่อนข้างมากและมีการใช้รถค่อนข้างสูง เนื่องจากคลังสินค้าหรือโรงงานต่างๆ กระจุกตัวอยู่ในภาคกลาง เช่น ในจังหวัดนครปฐม คิดเป็น 20% ของพอร์ตสินเชื่อ เป็นต้น
ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปัจจุบันยังสามารถควบคุมให้อยู่ที่ระดับ 3.6% และในปี 65 ตั้งเป้าจะควบคุมให้น้อยกว่า 3% จากการควบคุมและคัดกรองสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ มีการจ้าง Outsource และเพิ่มทีมติดตามมาช่วยควบคุมเรื่อง NPL ได้ดียิ่งขึ้น และยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ดี แต่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19