(เพิ่มเติม) MBK ตั้งเป้ากำไรเติบโตปีละ 10% ช่วง 5 ปี หวังเพิ่มรายได้โรงแรม-อสังหาฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 31, 2007 17:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสุเวทย์  ธีรวชิรกุล กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอ็ม บีเค (MBK) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าจะมีกำไรสุทธิเติบโตปีละ 10% ในช่วง 5 ปี เริ่มงวดปี 51 (สิ้นสุด มิ.ย.)จากงวดปี 50 มีกำไรสุทธิ 1.28 พันล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อชดเชยกับที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่ตั้งเอ็มบีเคเซ็นเตอร์  
ทั้งนี้ กำไรสุทธิที่จะเพิ่มขึ้นมาจากการเพิ่มรายได้ในธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยกำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงแรมจะปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 40-45% เนื่องจากจำนวนโรงแรมที่เปิดใหม่เพิ่มขึ้นจากที่บริษัทเข้าลงทุน 4 แห่ง ได้แก่ โรงแรม รอยัลออคิด เชอราตัน (ถือหุ้น 30%) โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ (ถือหุ้น 4%) โรงแรมดุสิตธานี (ถือหุ้น 11%) และ โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส(ถือหุ้นใหญ่และบริหารเอง)
"เราจะต้องพยายามสร้างกำไรให้มากขึ้น เพื่อจะได้ cover กำไรที่จะลดลงใน 5 ปีข้างหน้า จากที่จะต้องจ่ายให้กับจุฬาฯ ที่มีการต่อสัญญาค่าเช่า และเราจะพยายามเพิ่มรายได้ในส่วนของโรงแรมและธุรกิจอื่นๆเข้ามาด้วย" นายสุเวทย์ กล่าว
นายสุเวทย์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจโรงแรม เป็น 22-25% ภายใน 3 ปีข้างหน้าจากปัจจุบันอยู่ที่ 18% ขณะที่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจข้าวจะปรับลดลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 32% และ รายได้จากศูนย์การค้ามีสัดส่วน 32% ที่เหลือมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 5% และสนามกอล์ฟ 2%
สาเหตุที่ปรับลดรายได้จากธุรกิจข้าว เพราะธุรกิจนี้เติบโตได้ช้าและมีกำไรต่ำ ขณะที่ธุรกิจโรงแรมยังมีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือช่วงไฮซีซั่น ซึ่งโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส ถือว่าได้เปรียบในด้านทำเลที่ตั้ง แต่บริษัทยังไม่ปรับขึ้นราคาห้องพัก เพราะที่ผ่านมาได้ปรับขึ้น 5-7% จาก 3,000- 3,500 บาท/ห้อง/วัน เมื่อ ต.ค.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะพิจารณาปรับขึ้นค่าห้องพักในเดือน ต.ค.51 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ปรับขึ้นค่าห้องพักปีละครั้ง
สำหรับปัญหาสภาพคล่องหุ้น MBK ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ นายสุเวทย์ กล่าวว่า น่าจะเกิดจากการที่ผู้ถือหุ้นไม่ยอมขายหุ้นในมือออกมา เพราะต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อหวังผลตอบแทนในรูปเงินปันผล ซึ่งบริษัทจะมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราที่เพิ่มขึ้นปีละ 0.25 บาท/หุ้น โดยมีเป้าหมายในงวดปี 51 จะจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 4 บาท/หุ้น จากงวดปีก่อนที่จ่ายในอัตรา 3.75 บาท/หุ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ