หุ้น STGT และ CPF ราคาไหลลง โดยเมื่อเวลา 9.59 น.หุ้น STGT ลบ 2.81% มาอยู่ที่ 43.25 บาท ลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 293.17 ล้านบาท
ส่วนหุ้น CPF ลบ 1.83% มาอยู่ที่ 26.75 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 243.83 ล้านบาท
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า การระบาดของโควิด-19 ในโรงงานกดดันระยะสั้น โดยล่าสุดพนักงาน CPF สาขาแก่งคอย ติดโควิดแล้ว 245 ราย ซึ่งทาง CPF จะปิดโรงงานในสระบุรี 5 วันเพื่อทำความสะอาด แต่ยังสามารถเดินเครื่องอีก 18 โรงงานปกติ ขณะที่ STGT หยุดการผลิตโรงงานสุราษฎร์ฯ และตรัง 3 วัน หลังพบพนักงานรายวันติดโควิด-19 จำนวน 41 ราย
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวคาดว่าจะสร้าง sentiment เชิงลบระยะสั้นต่อหุ้นในกลุ่มโรงงานในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรฯ F&B และชิ้นส่วน แต่มองเป็นโอกาสทยอยสะสม เพราะการกักตัวพนักงานที่มีความเสี่ยง 14 วัน จะกระทบแค่การผลิตในระยะสั้น แต่ด้วยการที่มี stock สำหรับการขาย และคำสั่งซื้อโดยรวมยังคงเติบโตดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้คาดว่าจะมีการเร่งผลิตในระยะถัดไปเพื่อส่งมอบสินค้าตามความต้องการของลูกค้า
ด้าน บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ปัจจัยในประเทศการติดเชื้อโควิด-19 ยังคงอยู่ในระดับสูง และเกิดในคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งกรณีที่น่าจะมีผลต่อ SET50 lndex โดยตรงคือการพบผู้ติดเชื้อโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ของ CPF ที่ จ.สระบุรี ทำให้มีการสั่งปิดโรงงาน 5 วัน (เริ่ม 30 พ.ค.-3 มิ.ย.64) โดยในแง่ปัจจัยพื้นฐานมองผลกระทบจำกัดเนื่องจากผลกระทบต่อรายได้คิดเป็น 0.05% ของรายได้รวม แต่ระยะสั้นอาจถูกกระทบในเชิง Sentiment ทั้งนี้ ทุก 5% ของ CPF ที่ลดลงจะกระทบต่อ SET50 lndex เพียง 1 จุด