นายนิวัติ อดิเรก รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฎิบัติการ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และ ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) ปี 64 เติบโต 30-40% ตามการเติบโตของ Portfolio โดยคงงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท รองรับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า กำลังการผลิต 386 เมกะวัตต์ ที่กระจายใน 5 ประเทศ แบ่งเป็น
1.โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย กำลังการผลิต 11 เมกะวัตต์ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในปีนี้
2.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 75 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการ Komagane กำลังการผลิต 25 เมกะวัตต์, โครงการ Yabuki กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์, โครงการ Chiba 1 กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ คาดจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 4/64 และโครงการ Chiba 2 กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ จะ COD ในครึ่งปีหลังของปี 65
3.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม เมืองนาบาส บนเกาะวิซายัส ประเทศฟิลิปปินส์ (การลงทุนร่วมกับพันธมิตรฟิลิปปินส์ โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 40%) กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการลงทุน 5.6 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนา ทำสัญญาเช่าที่ดินจากทางภาครัฐ
4.โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ประเทศอินโดนีเซีย (ถือหุ้นทางอ้อม 33.3%) กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการลงทุน 24 เมกะวัตต์
5.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม บริเวณแขวงเซกองและอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กำลังการผลิตรวม 270 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการลงทุน 45% เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ขั้นสุดท้าย คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้ใน 2 เดือนนี้ และคาด COD ภายในปี 66
ปัจจุบันบริษัทฯ สามารถผลิตไฟฟ้าได้จำนวน 2,100 ล้านหน่วยต่อปี ซึ่งหากดำเนินการพัฒนาได้ครบ 5 โครงการดังกล่าวข้างต้น จะสนับสนุนให้มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3,200 ล้านหน่วยต่อปี หรือคิดเป็นการเติบโตที่ 50% ใน 5 ปีข้างหน้า โดยยังไม่นับรวมการซื้อกิจการ (M&A) ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้และปีหน้าอีกพอสมควร
นายนิวัติ กล่าวว่า การผลักดันการเติบโตของ Portfolio ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นในประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีแผนขยายไปในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อให้ Portfolio มีความสมดุล ขณะเดียวกันในด้านเทคโนโลยี ก็ยังคงเน้นพลังงานทดแทน หรือโรงไฟฟ้าสีเขียว ซึ่งปัจจุบัน BCPG ก็อยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มเติมใน แบตเตอรี่ และ Digital Energy ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนประเภทโครงการที่จะเข้าไปลงทุน ก็ยังมุ่งเน้นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว เพื่อสร้างรายได้และกำไรเข้ามาในบริษัทได้ทันที เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้า ขนาด 220 กิโลโวลต์ เพื่อส่งไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ในโครงการ Nam San 3A กำลังการผลิต 69 เมกะวัตต์ และโครงการ Nam San 3B กำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ไปให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ตามสัญญาการรับซื้อขายไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 25 ปี เริ่มปี 65 ปัจจุบันอยู่ในช่วงการก่อสร้าง โดยมีความคืบหน้าไปแล้ว 39-40% คาดว่าจะสามารถ COD ได้ในไตรมาส 2/65 ตามแผน