นางเสาวภาพ สุเมฆศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานควบคุมบัญชีและการเงิน บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า บริษัท คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 จะเติบโตกว่าไตรมาส 1/64 เนื่องจากค่าการกลั่น (GRM) ปรับตัวดีขึ้น หลังจากโรงกลั่นบางจากฯ สามารถกลับมาผลิตได้ตามปกติจากที่หยุดซ่อมบำรุงตามวาระเป็นเวลา 35 วัน โดยบริษัทได้มีการวางแผนการกลั่นตามความต้องการใช้ หรือจะมีอัตรากำลังการผลิตอยู่ที่ 100,000-110,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกอยู่ที่ 6,500 บาร์เรลต่อวัน และทั้งปีคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 100,000 บาร์เรลต่อวัน
บริษัทยังเดินหน้าขยายสถานีบริการน้ำมันบางจากตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 100 สาขา จากปีก่อนอยู่ที่ 1,233 สาขา โดยไตรมาสแรกเปิดไปแล้ว 11 สาขา ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 1,243 สาขา และยังมีแผนเปิดสาขาบริการน้ำมันในรูปแบบ Unique Design ในปีนี้เพิ่มเป็น 59 สาขา จากปีก่อนอยู่ที่ 39 สาขา เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับสถานีบริการอีก 10% โดยจะเน้นการขยายไปยังถนนสายหลัก หรือหัวเมืองหลักเป็นส่วนใหญ่
ส่วนร้านกาแฟ Inthanin ปีนี้คาดขยายเพิ่มอีก 150 สาขา จากปีก่อนอยู่ที่ 673 สาขา และสถานีอัดประจุไฟฟ้า PEA VOLTA ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก จะเน้นบนเส้นทางหลักสู่เมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ (การร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) คาดจะขยายเพิ่มเป็น 56 สถานีในไตรมาส 2/64 จากปัจจุบันมีอยู่ 18 สถานีให้บริการใน 11 จังหวัดทั่วประเทศ
สำหรับแนวโน้มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันในครึ่งปีหลังนี้ มองว่าค่าการกลั่นมีแนวโน้มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายมากขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป แต่ด้วยทางฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะมาเลเซีย อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และไทย ยังคงเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรง จึงส่งผลให้ค่าการกลั่นฟื้นตัวได้ไม่มากนัก
ทั้งนี้ BCP กลั่นน้ำมันและจำหน่ายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ หากสถานการณ์โควิด-19 ไม่ได้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ก็อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ แต่อย่างไรก็ตาม BCP ได้มีการปรับกลยุทธ์ โดยเน้นตลาดส่งออกมากขึ้น เช่น การนำน้ำมันดีเซลบางส่วนส่งออก เรวมถึงการปรับโรงกลั่นเป็น niche products refinery นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากเดิมที่ผลิตน้ำมันประเภทต่างๆ บริษัทฯ ได้ขยายเป็นผู้ผลิต UCO (Unconverted Oil) รายเดียวในประเทศไทย
"เราคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อน จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คาดว่าจะคลี่คลายลง ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ Sale volume โตขึ้น" นางเสาวภาพ กล่าว
ด้านความคืบหน้าการนำบมจ.บีบีจีไอ (BBGI) หรือบริษัทย่อย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทคาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ได้ในช่วงไตรมาส 3/64 และจะสามารถเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ได้ในไตรมาส 1/65
ส่วนของ OKEA ASA ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 46.52% คาดว่าแหล่งน้ำมันดิบ Yme จะดำเนินการผลิตครั้งแรก (first production) ในครึ่งปีหลังของปีนี้ และอยู่ระหว่างตัดสินใจลงทุนในแหล่ง Hasselmus คาดทราบผลในไตรมาส 2/64 ขณะที่ Lithium Americas Corp. (LAC) ธุรกิจเหมืองลิเทียม เพื่อผลิตเป็นลิเทียมคาร์บอเนตและลิเทียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างที่ Cauchari-Olaroz โดยมีกำหนด first production กลางปี 65 โดย BCP จะได้รับสิทธิ Offtake ซื้อลิเทียมที่จำนวน 6,000 ตันต่อปี