ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถ่วงฟุตซี่ปิดร่วง 68.6 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) นับเป็นวันที่ 5 จากการซื้อขาย 6 วันที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ได้รับผลกระทบมากที่สุด อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ช่วยหนุนให้ดัชนี FTSE 100 กระเตื้องขึ้นก่อนปิดตลาด
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 68.6 จุด แตะระดับ 6,459.3 จุด หลังจากขยับลงแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 6,413.4 โดยดัชนีเคลื่อนตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเบาบางที่ 2.23 พันล้านหุ้น
          หุ้นเหมืองแร่ของอังกฤษเป็นแกนนำที่ถ่วงให้ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง สวนทางกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงและบทวิเคราะห์เชิงลบของโบรกเกอร์จากซิตี้กรุ๊ป ซึ่งปรับลดมูลค่าหุ้นของ 5 บริษัทเหมืองเป็น 'hold' จากเดิมที่ 'buy' หลังจากที่ราคาหุ้นไต่ขึ้นแข็งแกร่งนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม
          โดยหุ้น 5 ตัวที่ถูกปรับลดดังกล่าวปิดปรับตัวลงทั้งหมด ได้แก่ แองโกล-อเมริกัน ร่วงลง 154 เพนซ์ บีเอชพี-บิลลิตัน ร่วงลง 71 เพนซ์ คาซัคห์มิส ลบ 79 เพนซ์ ริโอ ทินโต ลบ 156 เพนซ์ และเวดันตา รีซอร์สเซส ร่วงลง 109 เพนซ์
          นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารก็ปิดในแดนลบเช่นกัน หลังจากเครดิต สวิส แนะให้ลูกค้าหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นกลุ่มแบงก์ เนื่องจากตลาดบ้านอังกฤษอยู่ในภาวะถดถอย
          ลอยด์ส ทีเอสบี ซึ่งโบรกเกอร์ปรับลดสู่ 'neutral' จาก 'outperform' ร่วงลง 6-1/2 เพนซ์ อัลไลแอนซ์ แอนด์ เลสเตอร์ ซึ่งเครดิต สวิส จัดอันดับที่ 'underperform' ร่วงลง 7-1/2 เพนซ์ และเอชบีโอเอส ซึ่งคงอันดับที่ 'neutral' แต่ปรับลดเป้าหมายลงเหลือ 1,025 เพนซ์ ปิดลบ 9-1/2 เพนซ์
          สำหรับหุ้นที่ปิดร่วงลงหนักที่สุดในการซื้อขายวานนี้คือ หุ้นบรติช เอนเนอร์จี้ ซึ่งรูดลงถึง 47 เพนซ์ หรือ 8.1% หลังจากที่บริษัทออกมาเปิดเผยว่า บริษัทต้องเลื่อนการเปิดใช้ Hartlepool 1 Reactor ออกไป เนื่องจากเกิดปัญหาระหว่างการตรวจสอบความเรียบร้อย