ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีแกร่งหนุนดาวโจนส์ปิดบวก44.95จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับตลาดสินเชื่อและผลกำไรที่ไม่แน่นอนของหลายบริษัท ขณะเดียวกันก็ได้รับปัจจัยบวกในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี  
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดขยับขึ้น 44.95 จุด หรือ 0.33% แตะระดับ 13,566.97 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 5.70 จุด หรือ 0.38% แตะระดับ 1,506.33 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 28.77 จุด หรือ 1.06% แตะระดับ 2,753.93 จุด 
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.39 พันล้านหุ้น เมื่อเทียบกับวันศุกร์ที่ 1.79 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 9 ต่อ 7 
          บริษัทหลายแห่ง รวมถึงบริษัทผู้ผลิตยาเมอร์ค แอนด์ โค เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสามที่น่าพอใจ แต่นักลงทุนไม่ยินดีกับผลกำไรของบริษัทผู้ผลิตยาที่เป็นคู่แข่งอย่าง Schering Plough Corp. รวมถึงแนวโน้มผลกำไรที่ไม่ดีนักของบริษัทบลูชิปหลายแห่งที่มีการเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ก่อน
          โดยดัชนีเคลื่อนตัวลงในการซื้อขายช่วงเช้าต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ตลาดวอลสตรีทดิ่งลงรุนแรง 366 จุดจากการที่นักลงทุนผิดหวังกับรายงานผลประกอบการและการที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ประกาศปรับลดอันดับหุ้นกู้จำนอง
          ก่อนที่ตลาดจะกลับมามีความหวังเกี่ยวกับผลกำไรของบริษัทแอ็ปเปิ้ล ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลหลังตลาดปิดทำการ และส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวสูงขึ้น รวมถึงหุ้นอื่นๆก็บวกตามเป็นทิวแถว
          ไบรอัน เจนโดร นักยุทธศาสตร์การลงทุนจาก ไอเอ็นจี อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ กล่าวว่า เป็นเรื่องแปลกที่ตลาดปิดในแดนบวกหลังจากที่ปิดร่วงลงอย่างหนักในวันซื้อขายก่อนหน้า โดยเขาคิดว่าน่าจะมีสาเหตุจากนักลงทุนที่จ้องซื้อเก็งกำไร 
          เขากล่าวว่า ขณะที่วอลล์สตรีทผิดหวังกับผลประกอบการของบริษัทชื่อดังหลายแห่ง แต่ 2 ใน 3 ของผลกำไรของบริษัทต่างๆที่มีการเปิดเผยจนถึงขณะนี้ดีกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ และแนวโน้มยังคงสดใสสำหรับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและเฮลธ์แคร์