นายสุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฮิวแมนิก้า (HUMAN) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/64 ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานไม่เต็มที่ และอาจมีการดำเนินงานล่าช้ากว่ากำหนด แต่บริษัทยังมีโปรเจ็คต์ในมือจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเห็นผลประกอบการกลับมาฟื้นตัว ดังนั้น บริษัทจึงคงเป้ารายได้ทั้งปี 4 เติบโตที่ 5-10% แตะ 1,000 ล้านบาท พร้อมทั้งตั้งเป้าในระยะ 3 ปี (ปี 64-66) รายได้จะเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20%
สำหรับบริษัท ไทเกอร์ ซอฟท์ (1998) ซึ่ง HUMAN ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ได้รับปัจจัยบวกจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้มียอดขายฮาร์ดแวร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เช่นเครื่องสแกนใบหน้าเพื่อตรวจอุณหภูมิ และบันทึกข้อมูล เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ลงทุนในบริษัทฟาร์มแคร์ ในการสร้างแพลตฟอร์มให้พนักงานของลูกค้าสามารถเข้าถึงเภสัชกร และปรึกษาอาการป่วยได้กว่า 30 โรค และสามารถรับยาได้โดยไม่ต้องไปพบแพทย์
ด้านบริษัท แรบบิท แคช จำกัด ที่ HUMAN ถือหุ้นในสัดส่วน 5% นั้นคาดว่าจะมีการเลื่อนเปิดบริการออกไปเป็นไตรมาส 3/64 จากเดิมที่มีแผนจะเปิดในเดือน มิ.ย. และบริษัท เบนนิกซ์ จำกัด (Benix) ที่ HUMAN ถือหุ้นในสัดส่วน 51% มองว่าปีนี้เป็นปีเริ่มต้น คาดว่าจะเห็นการเติบโตที่ก้าวกระโดดได้ในช่วงปีหน้าเป็นต้นไป ทั้งนี้คาดว่าจะมีการเติบโตจนสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และเด็กเล็ก ที่ต้องการได้รับการดูแล ทั้งนี้จากการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เป็น Digital Healthcare ทั้งหมดนั้นบริษัทต้องการสร้าง Healthcare Ecosystem ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้ชุมชนต่อไป นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มที่เปิดตัวเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา คือแพลตฟอร์ม LearnDi ของ AIS ที่เป็นแพลตฟอร์มให้ความรู้แก่องค์กรต่างๆ ด้วย
ส่วนการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการในประเทศเมียนมา คงต้องชะลอออกไปก่อนเนื่องจากสถานการณ์ในเมียนมายังไม่คลี่คลาย
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/64 บริษัทสามารถทำรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 169.3 ล้านบาท ลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 173.6 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจบริการงานด้านทรัพยากรบุคคล (HR Solutions) 145.8 ล้านบาท และการให้บริการด้านการบริหารจัดการบัญชีและการเงิน (Financial Solutions) อีก 23.5 ล้านบาท
ด้านยอดขายที่ลดลง และ SG&A ในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 41.8 ล้านบาท จากการลงทุนจ้างที่ปรึกษา และขยายพื้นที่เพื่อรองรับการเติบโตของ Public Cloud ทั้งนี้จะสามารถใช้พื้นที่ใหม่ทั้งหมดได้ในช่วงต้นปีหน้า ส่งผลให้กำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 72.5 ล้านบาท ลดลง 7.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 34.1 ล้านบาท ลดลง 28.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน