นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) เปิดเผยว่า แนวโน้มการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑลยังอยู่ในเกณฑ์สูง และมีตัวเลขเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด ศบค.ยังคงชะลอการผ่อนคลายเปิดสถานประกอบการ 5 ประเภทออกไปอีก 14 วัน โดยที่สถานการณ์โดยรวมส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจในเขตกรุงเทพฯ รวมถึงธุรกิจโรงแรมต่อไปอีก
ในเดือนพ.ค. 64 ที่ผ่านมาอัตราการเข้าพักของโรงแรมในเขตกรุงเทพฯเฉลี่ยลดลงเกือบ 50% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. 64 ซึ่งทางบริษัทมองว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ในขณะนี้หากสามารถควบคุมได้อย่างเร็วจะใช้เวลา 1 เดือนในการฟื้นตัว คล้ายกับการแพร่ระบาดระลอก 2 ที่ใช้ระยะเวลาฟื้นตัวลดลงเหลือเพียง 1 เดือนเท่านั้น จากครั้งแรกในปี 63 ที่ธุรกิจโรงแรมใช้เวลา 3 เดือนในการฟื้นตัว
การเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมถือเป็นทางออกเดียวที่จะช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งจากชาวไทยและต่างชาติยังส่งผลกระจายไปในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านค้า ธุรกิจขนส่ง ตลอดจนช่วยลดปัญหาการว่างงานที่เกิดขึ้นตลอดช่วงการแพร่ระบาด
ในฐานะผู้ประกอบการภาคธุรกิจโรงแรม นอกจากวัคซีนที่ทางรัฐบาลจัดหา ยังขอสนับสนุนการนำเข้าวัคซีนทางเลือกป้องกันโควิด-19 ซึ่งขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการที่โรงพยาบาลเอกชนมีการสั่งซื้อวัคซีนโมเดอร์นาเข้ามา หรือราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มเข้ามา และจะซื้อขายเฉพาะองค์กรเพื่อฉีดให้กับบุคลากรของตนเอง"นายวิทวัส กล่าว
อย่างไรก็ดีการจัดหาวัคซีนทางเลือกยังต้องใช้เวลา จึงเห็นด้วยกับแนวทางของ "ชมรมแพทย์ชนบท" ในการหยุดระบาดโควิดให้ตรงจุด โดยการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าทั้งหมดที่กรุงเทพและปริมณฑล เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหลังฉีดแข็มแรก เนื่องจากวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าสามารถทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหลังการฉีดเข็มแรกมากกว่า 80% ขณะที่วัคซีนซิโนแวกต้องรอหลังการฉีดเข็มที่ 2 จึงจะเกิดภูมิในระดับที่ใกล้เคียงกัน
จากการระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน จำนวนผู้ติดเชื้อที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลสูงสุดของประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 60% ของทั้งประเทศ การระบาดหนักในกรุงเทพยังส่งผลกระทบไปทั่วประเทศ ดังนั้นจึงควรเร่งหยุดการระบาดที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยทางเลือกหนึ่งเพื่อยุติการระบาดด้วยข้อจำกัดที่วัคซีนมีน้อย "ชมรมแพทย์ชนบท" จึงมีข้อเสนอให้นำวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าทั้งหมด ที่ผลิตได้จากสยามไบโอไซเอนซ์ในเดือนมิ.ย.นี้ ฉีดทั้งหมดที่กรุงเทพและปริมณฑล เพื่อช่วยเร่งลดการระบาดลงให้มาก
"วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการยุติการระบาดในพื้นที่สีแดง กระสุนมีจำกัด หยุดระบาดโควิดให้ตรงจุด ถมวัคซีนแอสตร้าหมดหน้าตักลงที่กรุงเทพฯและปริมณฑล คือ ข้อเสนอของชมรมแพทย์ชนบท ที่กลุ่มบริษัทขอให้การสนับสนุน"นายวิทวัส กล่าว