นายปิยะ โอฬารริกสุภัค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในงวดบัญชีปี 65 (ก.ค.64-มิ.ย.65) บริษัทคาดยอดขายเติบโต 10-12% ต่อเนื่องจากปี 64 โดยมีแผนการลงทุนในช่องทางออนไลน์ในการสร้างแพลตฟอร์มต่างๆ และขยายช่องทางการขายแบบออฟไลน์ด้วยการเพิ่มเอาท์เล็ตมากขึ้น โดยจะมีการเปิดสาขาใหม่ประมาณ 20 สาขา ในขณะเดียวกันจะมีการรีโนเวทหรือปิดบางสาขาที่ไม่ทำกำไรด้วย
และในงวดปี 66 บริษัทตั้งเป้าเติบโตจากฐานในงวดปี 63 คาดว่าจะมีการเติบโตจากกลุ่มสินค้าผู้หญิง 2 เท่า, กลุ่มสินค้ายีนส์ 1.3 เท่า, กลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่ยีนส์ 1.4 เท่า, กลุ่มสินค้า Millennials 2.8 เท่า ในขณะเดียวกันคาดว่าจะเห็นการเติบโตจากตลาดออนไลน์ที่ 2.6 เท่า
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเน้นการทำตลาดออนไลน์ผ่านกลยุทธ์ BOSS (Buy Online Ship to Shop) ให้บริการลูกค้าในการสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้หากมีการสั่งสินค้าแล้วไม่ถูกใจในสินค้า สามารถเปลี่ยนคืนได้ที่ร้านค้า โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายจากช่องทางออนไลน์เติบโตที่ 15%
นายปิยะ คาดแนวโน้มผลประกอบการในงวดไตรมาส 4/64 (เม.ย.-มิ.ย.) น่าจะออกมาใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการระบาดระลอก 3 ของโควิด-19 ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจากยอดผู้เข้าชมในห้างสรรพสินค้า และยอดขายลดลง โดยบริษัทพยายามบริหารจัดการควบคุมค่าใช้จ่าย และทำการตลาดเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด
พร้อมกันนี้ บริษัทวางแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเน้นช่องทางออนไลน์ ขณะเดียวกันจะมีช่องทางออฟไลน์ในรูปแบบ FlagShip Store เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นและสัมผัสสินค้าจริงด้วย โดยบริษัทได้เซ็นสัญญากับทางประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์แล้ว ขณะที่จะมีการเซ็นสัญญากับทางประเทศอินโดนีเซียต่อไป
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร และเครื่องดื่ม จะเป็นการดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้สามารถขายสินค้าได้ง่ายขึ้น แต่จะสามารถเริ่มได้ในช่วงไหนนั้นขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจาพูดคุย
สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/64 (ม.ค.-มี.ค.) บริษัทมีรายได้ 776 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วมีรายได้ 744 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วที่มีรายได้ 425 ล้านบาท โดยมี SG&A อยู่ที่ 361 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว
ด้านยอดขายจากช่องทางออนไลน์ในงวดไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว 84 ล้านบาท โดยบริษัทสามารถทำยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 11.5% ในขณะเดียวกันถือว่าบริษัทมีสภาพคล่องสูงเนื่องจากไม่มีหนี้จากธนาคาร โดยปัจจุบันมีเงินสดอยู่ที่ 1,743 ล้านบาท