(เพิ่มเติม1) CENTEL ลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 7.3พันลบ.เน้นรักษากำไร/ปี 51แตะ 8พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 2, 2007 13:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา(CENTEL)ปรับลดเป้ารายได้ปี 50 ลงเหลือ 7.3 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดไว้ 7.5 พันล้านบาท แต่จะพยายามรักษากำไรสุทธิและอัตราเงินปันผลให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 49 ที่มีกำไรสุทธิ 417 ล้านบาทและจ่ายปันผล 0.13 บาท/หุ้น ส่วนปี 51 คาดรายได้กระโดดแตะ 8 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทลงทุนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ในอนาคต
"ทางบริษัทพยายามรักษากำไรเท่าๆกับปีก่อน และก็อยากจะรักษาอัตราการจ่ายปันผลเท่ากับปีก่อนด้วย" นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารและการเงิน CENTEL กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 2/51 เชื่อว่าโรงแรมเซ็นทรัลเวิลด์จะเปิดให้บริการได้ตามแผนงานที่วางไว้ ขณะที่โรงแรมในต่างจังหวัดทั้งในพัทยาและภูเก็ตอยู่ระหว่างเตรียมแผนก่อสร้าง ด้านธุรกิจอาหารในช่วงไตรมาส 4/50 จะมีการเปิดตัวเฟรนไชส์ใหม่จากญี่ปุ่นที่คาดว่าจะเปิดร้านแรกในห้างเซ็นทรัลเวิลด์
นายรณชิต คาดว่าในปี 51 จะมีรายได้เพิ่มประมาณกว่า 400 ล้านบาทจากการเปิดให้บริการโรงแรมเซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนโรงแรมเซ็นทรัลวงศ์อมาตย์ พัทยา คาดจะเปิดได้ในไตรมาส 4/52 และ โรงแรมกะตะ ที่หาดกะรน จ.ภูเก็ต จะเปิดตัวในไตรมาส 2/53 คาดว่าแต่ละแห่งจะใช้เวลา 2 ปีจะถึงจุดคุ้มทุน และจะส่งผลให้รายได้ในส่วนของโรงแรมมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 50% ในปี 53 จากปี 50 อยู่ที่ 40% ที่เหลือเป็นรายได้จากธุรกิจอาหาร
สำหรับการขายหุ้นกู้วงเงิน 1.3 พันล้านบาท อายุ 2 ปี ใช้คืนหุ้นกู้ชุดเดิม และใช้ลงทุน 3 โรงแรมใหม่ บริษัทคาดว่าจะ book build ได้ประมาณวันที่ 11 ต.ค. หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 10 ต.ค. และเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันในประเทศในสัปดาห์เดียวกัน โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่สูงกว่าหุ้นกู้งวดก่อนหน้าที่มีอัตราดอกเบี้ย 3.81% วงเงิน 1.2 พันล้านบาท อายุ 2 ปี
หลังการออกหุ้นกู้ดังกล่าว จะทำให้บริษัทมียอดหนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 5 พันล้านบาท ส่งผลให้สิ้นปี 50 มีอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E) ที่ 1.6 เท่า เพิ่มขึ้นจากปี 49 ที่มี D/E อยู่ที่ 1.1-1.2 เท่า แต่ต้นทุนการเงินของบริษัทจะปรับลดลงเหลือประมาณ 4-4.5% จากช่วงต้นปีอยู่ที่ กว่า5% ซึ่งเป็นผลจากการออกหุ้นกู้
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงแผนขายหุ้นเพิ่มทุน(PO)จำนวน 170 ล้านหุ้นในช่วงปลาย ต.ค.ให้กับนักลงทุนทั่วไป แม้ว่าจะกังวลผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดหน้ากรมแผนที่ทหารเมื่อคืนวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยก็ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ส่วนการที่มีรัฐมนตรีหลายคนลาออกและมีการปรับคณะรัฐมนตรีนั้นเห็นว่าไม่น่าจะส่งผลต่อภาวะตลาดหุ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ