หุ้น CHG ราคาวิ่งขึ้น 4.65% มาอยู่ที่ 3.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท มูลค่าซื้อขาย 119.42 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.17 น. โดยเปิดตลาดที่ 3.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.62 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.50 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) ราคาพื้นฐาน 4 บาท คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/64 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 330-350 ล้านบาท เติบโตทั้ง YoY และ QoQ โดยในไตรมาส 2/63 มีกำไรสุทธิ 156 ล้านบาท และไตรมาส 1/64 กำไรสุทธิ 252 ล้านบาท พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 64-65 ขึ้น +9%/+6% สะท้อนการปรับรายได้เพิ่มขึ้น และ EBITDA margin ดีขึ้นเป็น 28.4% โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 64-65 จะเติบโตสูง +31% และ +7% ตามลำดับ ซึ่งในปี 64 ได้อานิสงค์บวกจากโควิด-19, ผลประกอบการของ 2 โรงพยาบาลที่เปิดใหม่ดีขึ้น และมีรายได้จากการบริหารสถานพยาบาลด้วย
CHG เป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในแถบตะวันออก โดยมีโรงพยาบาลในเครือ 14 แห่ง โครงสร้างรายได้ในไตรมาส 1/64 มาจากรายได้คนไข้เงินสด 59%, จากคนไข้ประกันสังคม 32% และจากโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 9% และได้อานิสงค์จากโควิดระบาดระลอกที่ 3 ทำให้รายได้จากการตรวจโควิดเพิ่มขึ้น โดยในเดือนเม.ย.-พ.ค.64 ตรวจโควิดอยู่ที่ 1,000 รายต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 300 รายต่อวันในไตรมาส 1/64 ส่วนอัตราการใช้เตียง IPD สำหรับผู้ป่วยโควิดและ Hospitel อยู่ที่ 70-80% และ 60% ตามลำดับ (CHG มีเตียง IPD สำหรับผู้ป่วยโควิด 300 เตียง และมี Hospitel 1,500 ห้อง)
รายได้ที่ไม่รวมเคสเกี่ยวกับโควิดในช่วงเม.ย.-พ.ค.64 เติบโตได้ YoY และ QoQ โดยหลักมาจากบริการฉุกเฉิน, แลป และเกี่ยวกับหัวใจ มีรายได้จากการบริหารสถานพยาบาลเข้ามาช่วยเสริม ประกอบด้วย Koh Lan Medical Unit (สัญญา 2 ปี เริ่มตั้งแต่พ.ย.63) คาดรายได้ 2 ล้านบาท/เดือน และ Pattaya City Hospital (สัญญา 1 ปี เริ่มตั้งแต่ม.ค.64) คาดรายได้ 20 ล้านบาท/เดือน ผู้บริหารระบุว่ามีโอกาสที่จะปรับสัญญาจากระยะสั้นเป็นระยะยาว และเป็นพันธมิตรกับศูนย์หัวใจสิรินธร โดยมีสัญญา 3 ปี เริ่มตั้งแต่พ.ค.64 รายได้อยู่ที่ 450 ล้านบาท หรือประมาณ 12.5 ล้านบาท/เดือน และทาง CHG มีแผนเปิดศูนย์หัวใจที่สมุทรปราการในไตรมาส 3/64