STI เจรจาซื้อกิจการธุรกิจด้านวิศวกรรมระบบ,วางเป้าปีนี้รายได้-อัตรากำไรสุทธิโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 9, 2021 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจาเพื่อที่จะเข้าซื้อกิจการ (M&A) ด้านวิศวกรรมระบบ เพื่อที่จะเข้ามาหนุนความเข้มแข็งของบริษัทที่มีการให้บริการปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง รวมไปถึงการให้บริการออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมที่ครบวงจร โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี 64 หรือช่วงต้นปี 65

สำหรับการขยายกิจการของบริษัทจะเน้นอุตสาหกรรมที่มีคู่แข่งไม่มาก ซึ่งยังมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และยังมีทิศทางการเติบโตในอนาคต โดยยังเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมของบริษัท "เรายังคงมองหาการขยายกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัทในปัจจุบัน เพื่อที่จะเสริมความเข้มแข็งและช่วยให้บริษัทสามารถให้บริการกับลูกค้าได้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต"นายสมเกียรติ กล่าว ในส่วนของทิศทางผลประกอบการของบริษัทในปี 64 บริษัทยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,900 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 1,570 ล้านบาท และคาดอัตรากำไรสุทธิ 10-12% จากปีก่อนอยู่ที่ 9.5%

โดยบริษัทมีงานในมือ (Backlog) กว่า 4,000 ล้านบาท ที่จะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ และรับรู้รายได้ต่อเนื่องในอีก 3-4 ปี ซึ่งเป็นงานจากโครงการภาครัฐ อาทิเช่นศูนย์ราชการส่วนต่อขยาย ศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย และโรงพยาบาลต่างๆ เป็นต้น ในส่วนงานภาคเอกชนยังคงมีงานก่อสร้างคลังสินค้า ห้องเย็น โรงพยาบาล และโครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) ที่ยังดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง และสามารถทยอยส่งมอบงานตามแผน โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทยังคงมีแผนการเข้าประมูลงานใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่นโรงพยาบาล คัลงสินค้า ห้องเย็น ส่วนต่อขยายมอเตอร์เวย์ และท่าเรืออู่ตะเภา เป็นต้น โดยในช่วงไตรมาส 2/64 บริษัทคาดว่าจะรู้ผลการประมูลงานใหม่ๆเข้ามาเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) ราว 700-800 ล้านบาท จากการยื่นงานประมูลมากกว่า 1,000 ล้านบาท นายสมเกียรติ กล่าวถึงทิศทางอุตสาหกรรมการก่อสร้างในช่วงที่เหลือของปีว่า จะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการกระจายตัวของวัคซีนไวรัสโควิด-19 เข้ามาช่วยให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้งานก่อสร้างโครงการต่างๆออกมาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนงานของภาคเอกชน อาทิเช่น คอนโดมิเนียม โรงแรม และอาคารสำนักงาน เป็นต้น "หากเรารับงานแค่คอนโดเราก็คงแย่ แต่จากการที่บริษัทได้กระจายการรับงานไปในหลากหลายกลุ่ม หลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งโครงการต่างๆก็ยังคงดำเนินต่อไปทำให้เรายังมีการรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง และหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายก็จะเข้ามาหนุนให้งานต่างๆออกมามากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการได้เตรียมโครงการต่างๆรอไว้อยู่แล้ว"นายสมเกียรติ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ