นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับขึ้นต่อ จากดาวโจนส์บวก 90 กว่าจุด น่าจะเป็นมุมมองเชิงบวกกับภาวะตลาดจากภายนอก ปัจจัยภายในอาจจะมีความรุนแรงทางภาคใต้อยู่บ้างแต่ก็เป็สสิ่งที่รับรู้รับฟังอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเมืองที่ร้อนแรงตรงนี้ก็ต้องรอดูความคืบหน้าเพราะถ้ายังไม่มีผลต่อวันเลือกตั้งผลกระทบกับตลาดจะมีไม่มาก เรื่องความเห็นไม่ตรงกันเรื่องความขัดแย้งกันมีเป็นประจำอยู่แล้ว
ส่วนราคาน้ำมันถือว่าลดลงเล็กน้อยในตลาดสหรัฐเมื่อวันศุกร์ คงจะไม่มีผลมากนัก ในเชิงกลยุทธ์ตอนนี้ถือว่าไม่ได้มีอะไรเป็นข่าวร้าย เป้าหมายระยะสัปดาห์ยังเป็นตัวเลข 870 จุด
"ตลาดสหรัฐที่บวกจากตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ทำให้ตลาดมีมุมมองทางบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลให้เช้านี้ตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในเอเชียเป็นบวก คิดว่าน่าจะเป็นการบวกตตามลาดสหรัฐ" นายอนุพนธ์ กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์( 5 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,066.01 จุด เพิ่มขึ้น 91.70 จุด(+0.66%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,557.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.75 จุด(+0.96%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,780.32 จุด เพิ่มขึ้น 46.75 จุด (+1.71%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 774.84 ล้านบาทเมื่อวันศุกร์ (5 ต.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวันศุกร์ (5 ต.ค.)ที่ 81.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.22 ดอลลาร์
- บีโอไอเผยนักลงทุนไทย-ต่างชาติ แห่ขอส่งเสริมลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน รองรับวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันพุ่ง ระบุ 4 ปี มีโครงการขอรับบีโอไอผลิตเอทานอล-ไบโอแก๊ส-ไบโอดีเซล สูงสุดถึง 82 โครงการ เงินลงทุน 5.3 หมื่นล้าน ใช้อ้อย-มันสำปะหลังวัตถุดิบหลัก ขณะเดียวกันหวั่นกระแสโลกกดดันปัญหาสิ่งแวดล้อม คนไทยจับมือสหรัฐ-ยุโรปเจ้าของเทคโนโลยีพันธมิตรร่วมทุนผันน้ำเสียเป็นพลังงาน ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบโรงงาน บีโอไอ เชื่ออนาคตมีโครงการให้เกิดขึ้นเพียบ
- บลจ.รุกเปิดตัวกองทุนพลังงานทางเลือก เอ็มเอฟซี ปลื้มสถาบันแห่จอง "เอ็นเนอร์จี ฟันด์" กว่า 3 พันล้านบาท ร่วมลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนภายในประเทศครบวงจร ด้านไอเอ็นจี เตรียมขายเอฟไอเอฟ เน้นลงทุนในดัชนี เอสแอนด์พี โกลบอล วอเตอร์ อินเด็กซ์ ครอบคลุม 50 หุ้น ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำทั่วโลก
- ผู้เชี่ยวชาญธนาคารโลกแจงผลดี "ซีดีเอ็ม" สร้างรายได้เสริมให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม วิเคราะห์หลากอุปสรรคขวางนักลงทุนไทยเข้าร่วมโครงการ ส่งผลให้เดินตามหลังเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและฟิลิปปินส์ ด้านเอกชนไทยที่ทำคาร์บอนเครดิตกระตุ้นผู้ประกอบการเร่งทำโครงการลดก๊าซเรือนกระจก มั่นใจสหประชาชาติออกแคมเปญใหม่สานต่อพิธีสารเกียวโต ขณะที่ธนาคารโลกตั้งสองกองทุนใหม่หนุนกู้ลดภาวะโลกร้อน
- "ธาริษา" ชี้ผลขาดทุนของธปท. ต้องแก้ด้วยการให้รัฐบาลเพิ่มทุน หรือออกพ.ร.ก.ล้างขาดทุนสะสม ถ้าแบงก์ชาติยังไม่มีกำไรพอที่จะนำมาชดเชยผลขาดทุนที่เกิดขึ้นได้ และย้ำต้องรอรัฐบาลใหม่ชี้ขาด ด้าน "ตีรณ" ระบุผลขาดทุนเกิดจากการเข้าแทรกแซงค่าเงินเป็นหลัก ดังนั้น วิธีแก้ควรจำกัดขอบเขตการแทรกแซง และหันมาบริหารเงินทุนสำรอง โดยเน้นผลประโยชน์เพื่อชดเชยดอกเบี้ยจ่าย
- ตลาดหลักทรัพย์ ไม่ติดใจกรณี 'ชิน คอร์ป' มีมติขายหุ้น 'แคปปิตอล โอเค' ให้กลุ่มเอแคป-โอริกซ์ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. แต่เพิ่งแจ้งข้อมูล 4 ต.ค. เหตุรอให้ 'เอแคป' ขอมติบอร์ดก่อน พร้อมระบุที่ผ่านมา 'ชิน คอร์ป' ส่งสัญญาณตัดขายธุรกิจที่ไม่ใช่รายได้หลักออกมาต่อเนื่อง
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--