ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าดิ่งตามดาวโจนส์ น้ำมันร่วงฉุดหุ้นพลังงานปรับฐาน

          นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้ปรับลงตามตลาดต่างประเทศเพราะตลาดหุ้นสหรัฐลงค่อนข้างแรง และราคาน้ำมันดิบปรับลงด้วย กลุ่มพลังงานคงจะเป็นปัจจัยหลักน่าจะปรับลง และเช้านี้ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับลง 2-3% คาดหุ้นไทยลง 2% ปัจจัยในประเทศที่แบงก์ชาติปรับตัวเลขเศรษฐกิจในวันศุกร์แต่คงไม่มีนัยสำคัญเพราะตอนนี้ตลาดหุ้นอยู่ที่ fund flow มากกว่า ปัจจัยในประเทศไม่มีผลอะไรมาก
          "กลุ่มพลังงานคงจะปรับฐานเพราะเดือนนี้ขึ้นมาประมาณ 10% จากเดือนที่แล้วซึ่งก็มี room ที่จะมีการปรับฐานได้บ้าง ผลประกอบการจะเริ่มออกสัปดาห์หน้า เพราะแบงก์ประกาศหมดแล้วคงไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามาช่วยในระยะสั้นมากนัก แต่ผลประกอบการบริษัทขนาดเล็กคงไม่มีผลอะไร" นายสุกิจ กล่าว
          แนะนำวันนี้ Short again สำหรับหุ้นที่กำไรออกไปก่อน แล้วค่อยรอซื้อคืนเพราะมองเป็นแค่การลงชั่วคราวมากกว่าสำหรับนักลงทุนระยะสั้น แต่ถ้านักลงทุนระยะยาวถือหุ้นได้เพราะเชื่อว่าจะรีบาวน์ได้ในไม่ช้านี้ จากเรื่องของการลดดอกเบี้ยสหรัฐสัปดาห์หน้าคงประกาศตอนนี้โอกาสลดดอกเบี้ยมากกว่า 50% มีโอกาสที่ตลาดจะฟื้นขึ้นได้ แต่ช่วงสั้นมีแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรและค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ (19 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,522.02 จุด ลดลง 366.94 จุด(-2.64%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,500.63 จุด ลดลง 39.45 จุด(-2.56%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,725.16 จุด ลดลง 74.15 จุด (-2.65%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,267.16 ล้านบาทเมื่อวันศุกร์ (19 ต.ค.)
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวันศุกร์(19 ต.ค.) ที่ 88.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.87 ดอลลาร์ 
          - นายแบงก์-เอกชนห่วงนโยบาย 'ประชานิยม' ฉุดฐานะการคลังประเทศแย่ แนะวางโครงสร้างพัฒนาเศรษฐกิจประเทศระยะยาว สร้างโอกาสและรายได้ประชาชนอย่างยั่งยืน จี้รับผิดชอบต่อนโยบายที่นำเสนอ ส.อ.ท.เตรียมเสนอรัฐบาลใหม่ฟื้นเจรจาเอฟทีเอไทย-สหรัฐ สร้างโอกาสผู้ประกอบการขยายตลาดส่งออก หลังขีดแข่งขันหดถูกคู่แข่งแซงหน้าไปบ้างแล้ว พร้อมเดินหน้าเซาเทิร์นซีบอร์ดรองรับอุตสาหกรรมลงทุน
          - รวมใจไทยชาติพัฒนาประกาศนโยบายพรรคด้านเศรษฐกิจ ดันจีดีพีโตปีละ 5% ต่อเนื่อง 5 ปี เงินเฟ้อไม่เกินปีละ 3% งัดสารพัดมาตรการภาษียกเว้นผู้มีรายได้น้อย เพิ่มหักลดหย่อน ผ่อนบ้าน ภาษีลูกกตัญญู เลี้ยงดูคนพิการ จูงใจเอสเอ็มอีเปิดกิจการใหม่ ไม่ต้องจ่ายภาษี 5 ปีแรก ส่วนนโยบายสังคมเตรียมเพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้านเป็น 2 ล้านบาทรวมถึงโครงการเอสเอ็มแอล ผุด 'เบบี้บอนด์' ทุนการศึกษาเยาวชน ฟื้นนโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี
          - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานแนวโน้มเงินเฟ้อ ที่ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค. ว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยที่มีแนวโน้มสูญเสียความสามารถในการแข่งขันอยู่แล้ว เมื่อต้องเผชิญกับการแข็งขึ้นของค่าเงินบาท จึงมีโรงงานบางแห่งต้องปิดกิจการลง
          - โบรกเกอร์ประสานเสียงงบแบงก์ไตรมาส 3 ดีเกินคาด หลังต้นทุนทางการเงินลดลง ขณะที่การปล่อยสินเชื่อขยายตัวดีขึ้น ประเมินแนวโน้มไตรมาส 4 ยอดปล่อยสินเชื่อกระเตื้องตามภาวะเศรษฐกิจ
          - 'ภัทรียา' ชี้การเชื่อมโยงตลาดหุ้นทั่วโลกหนุนสภาพคล่องการซื้อขายแนะผู้ประกอบการเตรียมพร้อมรับมือมาตรฐานบัญชีฉบับใหม่ คาดปี 2553 เริ่มทยอยใช้ ขณะที่ 'อีทีเอฟ' ได้รับความสนใจจากต่างประเทศ คาดปีหน้าประเดิมซื้อขายตลาดกับไต้หวันเป็นประเทศแรก
          - เผย ก.ล.ต.ผ่อนเกณฑ์การลงทุนในพอร์ตหุ้นโบรกเกอร์ใหม่ ไฟเขียวลงทุนในหุ้นที่ฝ่ายวิเคราะห์ออกบทวิจัยได้โดยไม่ต้องรอ 3 วัน แต่ย้ำต้องมี 'ไชนีสวอล์' ที่แข็งแรง ด้านสมาคมโบรกเกอร์ระบุโอกาสฟร้อนท์รันยาก เหตุ ก.ล.ต.คอยตรวจสอบใกล้ชิด ขณะที่ ก.ล.ต.ระบุกรณีฟร้อนท์รันที่ผ่านมายังไม่พบประเด็นน่ากังวล