(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: คลายวิตกสินเชื่อ ดันดาวโจนส์ปิดพุ่ง 191.92 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดฉากไตรมาสที่ 4 ด้วยการปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อได้ผ่านพ้นไปแล้ว 
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 191.92 จุด หรือ 1.38% ปิดที่  14,087.55 จุด หลังพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวันที่ 14,115.51 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 20.28 จุด หรือ 1.33% ปิดที่ 1,547.03 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 39.49 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 2,740.99 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.42 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 7 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.01 พันล้านหุ้น 
          นายจอห์น ซี โฟเรลลี นักวิเคราะห์จากอินดิเพนเดนท์ อินเวสท์เมนท์กล่าวว่า "นักลงทุนสถาบันได้ส่งคำสั่งซื้อเข้าตลาดอย่างหนาแน่น โดยแรงซื้อกระจุกตัวอยู่ในหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มการเงิน เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าธุรกิจเหล่านี้สามารถฝ่าฟันวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อไปได้ ทั้งนี้ แม้ซิตี้กรุ๊ปและยูบีเอส เอจี ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ไตรมาส 3 แต่นักลงทุนเชื่อว่าสถานการณ์ของบริษัททั้ง 2 แห่งจะกลับคืนสู่ภาวะปกติในเร็วๆนี้"
          "ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต.ค. หลังจากสำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมด้านการผลิตในเดือนก.ย.อยู่ที่ระดับ 52.0 จุด ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 52.5 จุด และเป็นอัตราที่ขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 6 เดือน" นายโฟเรลลีกล่าว
          นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง 1.42 ดอลลาร์ แตะระดับ 80.24 ดอลลลาร์ อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้นเป็นการเคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานในตลาด
          ทั้งนี้ หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.3% โดยก่อนที่ตลาดจะปิดทำการนั้น ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยว่าผลกำไรไตรมาส 3 ของธนาคารจะลดลง 60% แต่ต่อมานักลงทุนเริ่มคลายความวิตกลงเมื่อนายชาร์ล พรินซ์ ซีอีโอของซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า ซิตี้กรุ๊ปซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐ จะกลับไปมีผลประกอบการตามปกติในไตรมาส 4
          ขณะที่หุ้นคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล บวกขึ้น 5% ส่วนหุ้นธนาคารยูบีเอสเดินหน้าขึ้น 54.94 ดอลลาร์ หลังจากธนาคารประกาศแผนลดจำนวนพนักงาน 1,500 ตำแหน่ง          
          ส่วนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านทะยานขึ้นหลังจากซิตี้กรุ๊ปประกาศยกระดับความน่าลงทุนของบริษัทสร้างบ้านหลายแห่ง โดยหุ้นเลนนาร์ คอร์ป พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน บวกขึ้น 5.1% และหุ้นพัลท์ โฮมส์ พุ่งขึ้น 8.7%