หุ้น SMT ราคาพุ่งขึ้น 7.96% มาอยู่ที่ 6.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท มูลค่าซื้อขาย 190.78 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.36 น. โดยเปิดตลาดที่ 6.20 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.35 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.00 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าเหมาะสมสำหรับปี 64 ของบมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) ที่ 8.00 บ./หุ้น (รวม SMT-W3) แนวโน้มกำไรจะเป็นขาขึ้น โดยกำไรสุทธิไตรมาส 1/64 เท่ากับ 51 ล้านบาท อาจจะเป็นจุดต่ำสุดของปี และมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น QoQ,YoY ในช่วงที่เหลือ ตามแผนการพัฒนาสินค้าใหม่ที่เริ่มผลิตและส่งมอบ 3-4 ไตรมาสข้างหน้า สะท้อนบนยอดคำสั่งซื้อล่วงหน้า (Booking order) สูงถึง 96% ของเป้ายอดขายในปีนี้ที่ตั้งไว้ 2,600 ล้านบาท ขณะที่มีลูกค้าอีกหลายรายอยู่ระหว่างพัฒนาเป็น Upside ต่อประมาณการ และตลาด ขณะบริษัทมีกำลังผลิตปัจจุบันเหลือมากกว่า 30-50% รองรับการเติบโตใน 1-2 ปีข้างหน้าโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งอัตราผลิตที่สูงขึ้นจะทำให้กำไรเติบโตได้เร็วกว่ารายได้ที่สูงขึ้น บริษัทได้เลือกพัฒนาสินค้ากับคู่ค้าในกลุ่มที่เป็น megatrend ของโลกอย่าง Fiber Optics ซึ่งถูกนำไปใช้ใน Data center/Cloud , Sensor สำหรับเทคโนโลยีบนรถยนต์ที่อุปสงค์แข็งแรงและมีอายุสินค้าที่ยาว ช่วยลดความเสี่ยงถูกยกเลิกสินค้าเนื่องจากล้าสมัย พร้อมกับยกระดับการให้บริการสู่ PCBA/Box Build ที่เป็นงานระบบมีความซับซ้อนและมีมูลค่ามากกว่า Components/IC สะท้อนลงบน %GPM 20% เป็นจุดสูงสุดใหม่ของบริษัท และสามารถปรับตัวขึ้นได้จากการต่อยอดสินค้า High technology เช่น EV, LiDAR เป็นต้น
จุดเปลี่ยนที่สำคัญของบริษัท คือ การปรับปรุงโครงสร้างภายในทั้งการเปลี่ยนผู้บริหาร (เม.ย.63) ที่รวมถึงการทำงานภายในองค์กร-กระบวนการทำงาน-หาลูกค้าใหม่ ๆ ที่มีขนาดธุรกิจมั่นคงและเติบโตไปพร้อมบริษัท ทำให้รายได้ขยายตัวได้ในทุกไตรมาส เช่นเดียวกับผลประกอบการพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ 4 ไตรมาสติดต่อกัน