(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวในกรอบจำกัดช่วงรอผลประชุมเฟด,เล็งเก็งหุ้นรายตัว

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งในกรอบจำกัด ในช่วงรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะออกมาในช่วงกลางสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งก็คาดว่าเฟดจะยังไม่ทำอะไร เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานยังต่ำ และเงินเฟ้อที่สูงขึ้นก็เป็แค่ชั่วคราว อย่างไรก็ดี ยังต้องรอดูการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการทำ QE จะมีหรือไม่ ซึ่งถ้าผลประชุมเฟดออกมาไม่สร้าง Surprise หุ้นก็น่าจะรีบาวด์ขึ้นได้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อย หลังดัชนี S&P500 และ Nasdaq ทำนิวไฮ ในช่วงรอผลประชุมเฟดเช่นกัน ส่วนบ้านเราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ล่าช้า ทำให้อาจจะลดการเก็งกำไรไปบ้าง ทั้งนี้ ตลาดฯวันนี้คงจะเป็นการเล่นหุ้นรายตัวตามปัจจัยเฉพาะตัว โดยให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่วันนี้จะมีหลายตัวออกมา

พร้อมให้แนวรับ 1,625-1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640-1,645 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (14 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,393.75 จุด ลดลง 85.85 จุด (-0.25%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,255.15 จุด เพิ่มขึ้น 7.71 จุด (+0.18%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,174.14 จุด เพิ่มขึ้น 104.72 จุด (+0.74%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.28 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 94.23 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 104.31 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 มิ.ย.) 1,633.06 จุด ลดลง 3.50 จุด (-0.21%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 277.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.64
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (14 มิ.ย.) ปิด 70.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.04%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 มิ.ย.) อยู่ที่ 1.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.10/12 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 31.05-31.20 รอความชัดเจนปัจจัยใน-ตปท.
• คลังพร้อมเพิ่มสิทธิร่วมโครงการ "คนละครึ่งเฟส 3" หากความต้องการมากกว่า 31 ล้านคน หลังยอดลงทะเบียนวันแรกพุ่งกว่า 23.5 ล้านคน "ประยุทธ์"ถกทีมเศรษฐกิจลุยแก้หนี้ประชาชน 5 กลุ่ม กยศ. หนี้ครู เช่าซื้อรถยนต์ หนี้สินอื่น พร้อมสั่งแบงก์ชาติ ทบทวนดอกเบี้ยพีโลนในระบบ ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน หวังลดภาระคนกู้
• นีลเส็น ประเทศไทย ได้เปิดเผยมูลค่าเม็ดเงินโฆษณา 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) โดยมีการเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมูลค่าอยู่ที่ 44,956 ล้านบาท และสื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณา สูงสุดอยู่ที่ 60% แต่เมื่อเทียบเฉพาะเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา กับ พ.ค.2563 พบว่าเม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น 27%
• ก.พลังงานเตรียมเสนอร่างแผนพลังงานแห่งชาติตอบโจทย์ลดภาวะโลกร้อนของไทย ภาพใหญ่ลุยมุ่งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคพลังงาน คาดชง กพช.เคาะเร็วๆ นี้หวังประกาศใช้ ก.ย. แย้มไม่มีโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่เพราะไม่ สอดรับเทรนด์โลก พลังงานหมุนเวียนสัดส่วนเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ดันไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

*หุ้นเด่นวันนี้

• SAMTEL-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 102,998,131 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 12.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกและเสนอขาย (18 พฤษภาคม 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 พ.ย. 2564 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 17 พ.ค. 2567
• SCGP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 60 บาท ดักเก็งกำไรก่อน FTSE Rebalance มีผล 18 มิ.ย. 64 โดย SCGP ได้ปรับเข้าคำนวณในดัชนี FTSE Large cap รอบใหม่ ด้านผลประกอบการกำไรสุทธิยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิต และผลบวกจากการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ
• KBANK (ไอร่า) เป้า 164 หาก BOT อนุญาตให้เพิ่ม NVDR Limit ของ KBANK คาดมีโอกาสสูงที่ MSCI Index เพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน KBANK พร้อมปัจจัยพื้นฐาน คาด KBANK เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวหลังกระจายวัคซีนวัคซีนทั่วถึง คาดทำให้คุณภาพสินทรัพย์ของ KBANK ปรับตัวดีขึ้น