นายโสภณ ราชรักษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในเครือบมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้มุ่งพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้สร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจผ่านกระบวนการ Business Transformation เพื่อปรับรูปแบบการทำงานให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทมีทั้งความพร้อมและความสามารถที่จะแข่งขันในทุกโอกาส และส่งผลให้บริษัทรักษาความเป็นผู้นำของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมของประเทศไทย โดยปัจจุบันมีพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการทั้งสิ้นรวมกว่า 3 ล้านตารางเมตร และอัตราการเช่าที่สูงถึงกว่า 82% ในปี 64
ขณะเดียวกันบริษัทได้วางกลยุทธ์และเป้าหมายการดำเนินงานในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตในทุกมิติ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยจะนำประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจกว่า 30 ปี มาพัฒนาเป็นโซลูชั่นครบวงจรที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อ ผ่านการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ใหม่ "น่านน้ำสีม่วง หรือ Purple Ocean Strategy" ที่เสริมสร้างความพร้อม และความแตกต่างให้แก่บริษัทในการขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเผชิญกับการแข่งขันสูงในน่านน้ำสีแดง หรือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่กำลังเกิดขึ้นในน่านน้ำสีน้ำเงิน หรือหากต้องเผชิญกับทั้งสองน่านน้ำในคราวเดียวกันในน่านน้ำสีม่วง พร้อมตั้งเป้าขยายพอร์ตพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มเป็น 4 ล้าน ตารางเมตร ภายในอีก 5 ปี (ปี 64-68)
พร้อมตั้งงบลงทุนช่วง 5 ปี (ปี 64-68) รองรับการขยายพื้นที่เช่าคลังสินค้าไว้ที่ปีละ 2.5-3 พันล้านบาท สำหรับการขยายพื้นที่เช่าคลังสินค้าให้เช่าทั้งในและต่างประเทศ 150,000-200,000 ตารางเมตร/ปี โดยในส่วนของการขยายคลังสินค้าให้เช่าในประเทศจะมีการลงทุนในที่ดินย่านบางนา-ตราด พื้นที่ 4,700 ไร่ ในรูปแบบ Industrial Township ซึ่งจะมีการพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรม พื้นที่อยู่อาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ขณะที่การลงทุนพื้นที่เช่าคลังสินค้าในต่างประเทศ บริษัทฯ ยังมองการศึกษาลงทุนในเวียดนามเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่บริษัทได้ลงทุนพัฒนาคลังสินค้าให้เช่าในทางตอนเหนือของเมืองโฮจิมินห์ไปแล้ว โดยที่บริษัทยังมองว่าประเทศเวียดนามยังคงมีความน่าสนใจในการลงทุนเพิ่มเติมได้ เนื่องจากการสนับสนุนด้านภาคอุตสาหกรรมของภาครัฐในเวียดนาม และนักลงทุนต่างชาติยังคงให้ความสนใจในการลงทุนในเวียดนามค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความน่านสนใจรองจากประเทศไทย ส่วนคลังสินค้าให้เช่าในกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย พื้นที่ 100,000 ตารางเมตร มีความต้องการเช่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศอินโดนีเซียที่เติบโตขึ้นอย่างมาก โดยที่ในช่วง 5 ปี บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 85-90% ต่อปี
สำหรับแหล่งเงินทุนที่จะนำมารองรับการลงทุนนั้น บริษัทฯ จะทยอยขายสินทรัพย์ที่เป็นพื้นที่เช่าคลังสินค้าเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) โดยที่ในปี 64 บริษัทตั้งเป้าขายพื้นที่เข้าคลังสินค้าเข้ากอง FTREIT อยู่ที่มูลค่า 3.6 พันล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมาได้ทยอยขายไปแล้วกว่า 2 พันล้านบาท เหลืออีกกว่า 1 พันล้านบาท จะขายเข้ากอง FTREIT ในเดือนก.ย. 64 ซึ่งบรัทจะนำเงินที่ได้มาใช้รองรับการลงทุนต่อไป
ด้านรายได้ในกลุ่มของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล ปัจจุบันหากเทียบกับรายได้รวมของ FPT ถือว่ายังมีสัดส่วนที่ยังไม่สูงมาก ซึ่งการลงทุนพัฒนาพื้นที่เช่าคลังสินค้าเพิ่มขึ้น จะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้รายได้จากเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล เพิ่มสูงขึ้นและใกล้เคียงกับรายได้จากกลุ่มธุรกิจพัฒนาและขายที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันยังเป็นธุรกิจที่เป็นรายได้หลักและมีสัดส่วนรายได้มากที่สุดของ FPT โดยที่เป้าหมายผลการดำเนินงานงวดปี 63/64 (1 ต.ค. 63 - 30 ก.ย. 64) เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล มั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 4 พันล้านบาท จากเป้าหมายรายได้รวมของ FPT ที่ 2 หมื่นล้านบาท
"แม้ว่าที่ผ่านมาเราจะได้รับอานิสงส์จากสงครามการค้าและสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทำให้เราเติบโตอย่างน่าพึงพอใจ แต่ด้วยการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ประกอบกับการประยุกต์ใช้กลยุทธ์และยุทธศาสตร์ใหม่ของบริษัท เรามั่นใจว่าบริษัทฯจะสามารถสร้างการเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง ทำให้เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) มีรายได้เติบโต 10-15% ต่อปี และสามารถขยายพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านตารางเมตร ภายในปี 68 โดยที่เรายังเดินหน้าพัฒนาโครงการที่รองรับทุกความต้องการของลูกค้า ตามแนวคิด การสร้างสรรค์พื้นที่แห่งแรงบันดาลใจที่เอื้อให้ธุรกิจของลูกค้าดำเนินไปได้อย่างไร้รอยต่อ หรือ Inspiring Seamless Business Solution Experience ในทุกสภาวการณ์"นายโสภณ กล่าว