นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ ในลักษณะปรับฐาน คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวลงเล็กน้อย ในช่วงรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งตลาดฯก็มีการคาดหมายกันว่าจะไม่มีการพูดถึงการปรับลดการทำ QE ในรอบนี้ แต่บางคนก็คาดว่าจะพูดถึงการปรับลดการทำ QE ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจะพูดถึงหรือไม่ ถ้าไม่มีการพูดถึงตลาดฯก็มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้
อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเราอาจได้รับแรงประคองจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นมาเกือบ 2% ตอบรับการฟื้นตัวเศรษฐกิจหลังมีการเปิดเมืองในหลายประเทศ และความต้องการใช้น้ำมันก็ยังมีอยู่มากตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจด้วย แต่หุ้นในกลุ่มธนาคารและกลุ่มไฟแนนซ์ยังคงได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูแลเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ กระทบกลุ่มธนาคาร ส่วนกลุ่มเช่าซื้อต่าง ๆ ผลกระทบมีจำกัด เนื่องจากปัจจุบันส่วนใหญ่คิดดอกเบี้ยต่ำกว่าเพดาน 3-6% อยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ ก็จะมีมาตรการลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) มาช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ชดเชยกันไป
ทั้งนี้ วันนี้ให้ติดตามตลาดหลักทรัพย์จะประกาศหุ้นเข้า/ออกใน SET50 และ SET100 และติดตาม FTSE Rebalance ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,617-1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,634 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,299.33 จุด ลดลง 94.42 จุด (-0.27%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,246.59 จุด ลดลง 8.56 จุด (-0.20%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,072.86 จุด ลดลง 101.29 จุด (-0.71%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.15 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 135.16 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 29.16 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 มิ.ย.) 1,622.31 จุด ลดลง 10.75 จุด (-0.66%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,011.06 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 มิ.ย.) ปิด 72.12 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 มิ.ย.) อยู่ที่ 0.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.17 แนวโน้มแกว่งแคบรอผลกระชุมเฟด มองกรอบวันนี้ 31.10-31.20
- "ประยุทธ์" ขีดเส้น 6 เดือน แก้หนี้ประชาชนให้ครอบคลุมทั้งระบบ ระยะสั้นเล็งคุมดอกเบี้ย ตั้งคณะกรรมการแยกแก้ปัญหาหนี้รายกลุ่ม พร้อมตั้งหน่วยงานใหม่ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ส่งสัญญาณ ธปท ลดดอกเบี้ย ดูแลสินเชื่อ บัตรเครดิต ด้าน "คลัง" เตรียมแผนอัดสภาพคล่องช่วยเอสเอ็มอี
- นายสุภาพ สุวรรณพิมลกุล เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้ประเมินปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ชิปจะส่งผลกระทบกับออร์เดอร์หรือคำสั่งซื้อชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าอยู่บ้าง และอาจกระทบกับผู้ที่สั่งซื้อสินค้าเมื่อ 3-6 เดือนก่อน เชื่อว่า ผู้ผลิตจะหาทางผลิตสินค้าส่งลูกค้าให้ได้ตามที่กำหนดเพื่อรักษาฐานลูกค้าแต่ยังเป็นห่วงในภาพรวมที่ซ้ำเติมสถานการณ์การขาดแคลนชิพให้รุนแรงมากขึ้น มีแนวโน้มส่งผลให้สินค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์ไอที ต้องปรับขึ้นราคาบ้าง ทั้งจากปัญหาชิป รวมถึงวัตถุดิบที่เป็นต้นทุนการผลิตที่แพงขึ้น เช่น เหล็ก ยาง
- กกร.มีมติคงบัญชีสินค้าและบริการควบคุมปี 64 ตามเดิม 51 รายการ พร้อมสั่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาค่า GP ค่าขนส่งฟู้ดเดลิเวอรี
- ศาลล้มละลายกลางไฟเขียวแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย พร้อมแต่งตั้งคณะผู้บริหารแผน 5 ราย "ชาญศิลป์" ประกาศเดินหน้าลุย พร้อมเปิดแผนบริหารงานเน้นกลยุทธ์การหารายได้ ดึงดิจิทัลเสริมทัพทั้งขายออนไลน์และคาร์โก้ คุยภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ยอดจองไฟลต์แรก 100 ที่นั่ง
*หุ้นเด่นวันนี้
- MBK-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. เอ็ม บี เค (MBK)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 68,254,651 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 3.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี 11 เดือน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งแรก ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 15 ก.ค. 2564 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 15 พ.ค. 2567
- CGH-W4 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH))เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 1,001,373,122 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.25 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (31 พฤษภาคม 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 พ.ย. 2564 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 30 พ.ค. 2567
- CPF (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 43.5 บาท ราคาลดลงสะท้อนปัจจัยลบจากข่าวเกิดโรคระบาดในหมูไปแล้วในขณะที่ระยะสั้นมี Sentiment บวกจากราคาถั่วเหลืองและราคาข้าวโพดซึ่งเป็นวัตถุดิบของอาหารสัตว์เริ่มลดลงคาดส่งผลบวกผลักดันให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น
- CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 4 บาท คาดกำไร Q2/64 สูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่า 300 ลบ. +19% Q-Q, +94% Y-Y จากอานิสงส์ของโควิด-19 ระลอก 3 หนุนรายได้ที่เกี่ยวเนื่องคาดปรับตัวขึ้นเป็น 30% ของรายได้รวมใน Q2/64 ส่วนโรงพยาบาลใหม่อย่าง RPC และ 304 คาดพลิกมีกำไรปีนี้ และมีแรงหนุนจากการเข้ารับบริหารโรงพยาบาลที่พัทยาและเกาะล้าน คาดกำไรปี 64-65 โตโดดเด่น +26% Y-Y และ 6% Y-Y ตามลำดับ