MBK-W2 เปิดเทรดวันแรกที่ 11.20 บาท ขณะที่เมื่อเวลา 9.58 น.หุ้น MBK อยู่ที่ 14.60 บาท ลดลง 0.20 บาท (-1.35%) มูลค่าซื้อขาย 1.84 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 14.60 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 14.60 บาท และราคาลงต่ำสุด 14.60 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. เอ็ม บี เค (MBK) ครั้งที่ 2 ใช้ชื่อย่อว่า MBK-W2 ที่ 11.05 บาท (BSM) อิงราคาหุ้นแม่ที่ 14.80 บาท โดยมีความผันผวนของหุ้นแม่ที่ 33.50% ในด้านผู้ที่ได้รับ MBK-W2 มีต้นทุนจากการขึ้นเครื่องหมาย XW ที่ 7.50 บาท All-in Premium ของ MBK-W2 -5.08% เนื่องมาจากสถานะที่ In-The-Money กว่า 393% ทำให้เรารวมผลของ Dilution Effect ราว 4% ทำให้มองว่าด้วยราคาใช้สิทธิที่ต่ำมากทำให้ MBK-W2 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิเพื่อแปลงสภาพมากกว่า เนื่องจากการใช้สิทธิที่ถี่และอัตราการปันผลที่สูงในช่วงที่การดำเนินงานกลับมาปกติและสิทธิประโยชน์อื่นๆ ในอนาคต และเมื่อเทียบกับ MBK-W1 ในตลาดแล้ว มองว่า MBK-W2 มีความน่าสนใจกว่าเนื่องจากการใช้สิทธิที่ทำให้ไม่เกิดเศษหุ้นทำให้การซื้อขายในอนาคตของหุ้นแม่ทำได้ง่ายกว่า (MBK-W1 มีสถานะที่ Deep-In-The-Money เช่นกันแต่มีอัตราการใช้สิทธืที่ 1 : 1.0329)
พร้อมให้กรอบมูลค่าของ MBK-W2 ไว้ที่ 10.58-11.52 บาท เมื่อราคาหุ้น MBK เคลื่อนไหวในกรอบ 14.30-15.30 บาท โดยมี Volatility 34% per year
MBK ดำเนินธุรกิจศูนย์การค้า ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ธุรกิจกอล์ฟ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจการเงิน ธุรกิจอื่นๆ และศูนย์สนับสนุนองค์กร
MBK-W2 จำนวนที่ออก 68.3 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 25 หุ้นเดิม : 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 3.00 บาท อายุ 2 ปี 11 เดือน 15 วัน โดยสามารถใช้สิทธิได้ในทุกวันที่ 15 ของทุกเดือน โดยใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 15 ก.ค. 2564 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันที่ 15 พ.ค.2567 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ