ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,630.22 จุด เพิ่มขึ้น 7.91 จุด (+0.49%) มูลค่าการซื้อขายราว 49,563 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,631.23 จุด และระดับต่ำสุด 1,619.23 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกัน ในช่วงรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยต่างรอดูมุมมองด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงครึ่งปีหลังด้วย เพื่อใช้เป็นตัวพิจารณาในเรื่อง QE
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้น และล่าสุดสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ได้ขึ้นมากว่า 74 เหรียญฯ/บาร์เรลแล้ว ซึ่งรับผลจากที่ยุโรปเริ่มมีการคลายล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ และในวันที่ 1 ก.ค.นี้ยุโรปก็จะคลายล็อกดาวน์ทุกอย่าง คนสามารถเดินทางได้แต่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิดแล้ว ซึ่งก็จะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินอยู่ จากที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้ธนาคารแห่งประเทศเข้ามาดูแลเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ ซึ่งทำให้จะต้องมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งแคบในช่วงรอผลประชุมเฟด พร้อมให้แนวรับ 1,618 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,635 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,322.63 ล้านบาท ปิดที่ 41.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,146.69 ล้านบาท ปิดที่ 4.28 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,070.36. ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
KTC มูลค่าการซื้อขาย 1,898.77. ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง 2.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,446.61 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง