นายสุพล จงจินตรักษา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 2/64 คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จากยอด Pre-sale ที่มีการจองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ และเน้นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม Real Demand มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/64 บริษัทมองว่าอาจเป็นจุดต่ำสุดของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดว่าครึ่งปีหลังนี้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะปรับตัวดีขึ้น จากการกระจายวัคซีนให้ประชาชนได้มากขึ้น รวมถึงแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่จะเปิดโอกาสให้ต่างชาติสามารถเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อรายได้ของบริษัท เนื่องจากโครงการต่างๆ ที่เคยเปิดตัวไปแล้วมียอดจองจากชาวต่างชาติอยู่ถึง 49%
ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 6,391 ล้านบาท มีโครงการพร้อมอยู่ (Ready to Move) 6,767 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 15,590 ล้านบาท ส่วนกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) รวมมูลค่าอยู่ที่ 8,487 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มโรงแรม 6,420 ล้านบาท, กลุ่มห้องเช่าอยู่ที่ 307 ล้านบาท, กลุ่มอาคารสำนักงาน 504 ล้านบาท และ ร้านค้า (Commercial) อีก 1,256 ล้านบาท
ในปี 64 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท คือ Landmark @ Grand Station แนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูย่านรามอินทรา มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท มีจำนวน 1,212 ยูนิต มีราคาขาย 2-3 ล้านบาท/ยูนิต มีแผนเปิดตัววันที่ 28 มิ.ย.64 ปัจจุบันมีลูกค้าที่มียอดจองสิทธิ์แล้วกว่า 300 ราย เนื่องจากตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่มทั้งผู้สูงอายุ และลูกค้าที่ต้องการเลี้ยงสัตว์
และโครงการ Blossom Condo @ TSH Station ที่อยู่บริเวณรถไฟฟ้าสายสีแดงทุ่งสองห้อง มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท มีจำนวนทั้งหมด 800 ยูนิต
พร้อมกันนั้นจะเปิดตัวบ้านเดี่ยวโซนปิ่นเกล้าอีก 2 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น Branded Village @ Phutthamonthon มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท และ Branded Village @ Prannok - Phutthamonthon มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ทั้งสองโครงการอยู่ระหว่างการพัฒนา และมีแผนเปิดตัวโครงการในไตรมาส 4/64
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจัดตั้งบริษัท Asset Management Company (AMC) เพื่อเป็นช่องทางในการลงทุนเทคโอเวอร์โครงการเก่าๆ เพื่อนำมารีโนเวท และลดต้นทุนในการพัฒนาโครงการด้วยการซื้อสินทรัพย์ในราคาไม่แพง ทำให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรได้สูงขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทประสบความสำเร็จจากการรีโนเวท และเปิดห้องชุดแล้วทั้งหมด 3 โครงการมูลค่า 4,379 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 3/64
ส่วนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) บริษัทมีแผนเปิดร้านอาหาร Siamese test เพิ่ม 3 สาขา บริเวณโครงการสุขุมวิท 42, 48 และ 87 ส่วนธุรกิจ Kafeology และ Vending Machine ยังคงมีการดำเนินการขยายสาขาอยู่อย่างต่อเนื่อง
ด้านธุรกิจ Siamese Technology บริษัทได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้ง Air of Life โดยได้มีการติดตั้งเครื่องกรองอากาศให้แก่กลุ่มลูกบ้าน และ EV Charger ที่มีการติดตั้งตามโครงการต่างๆ ของบริษัท เพื่อรองรับกระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งโซลาร์ลูฟท็อปแห่งแรกแล้วที่คอนโดแถวรามอินทรา เพื่อลดต้นทุนค่าไฟในโครงการ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการออกเหรียญคริปโทเคอเรนซีด้วย