นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) คาดปี 50 สินเชื่อจะขยายตัว 8% ซึ่งอยู่ในขั้นต่ำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8-13% ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อรีไฟแนนซ์ และมองว่าการแข่งขันสินเชื่อในปีหน้าจะรุนแรงมากขึ้นเทียบกับปีนี้ โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อ ให้กับธุรกิจขนาดกลางและเล็ก(เอสเอ็มอี) กับสินเชื่อเคหะ
"ในปีนี้อย่างน้อยสินเชื่อเราคงโตประมาณ 8%แต่เราก็ยังมีเวลาอีกตั้ง 3 เดือน การขยายตัวก็น่าจะอยู่ในกรอบที่วางไว้" นายบัณฑูร กล่าว
นอกจากนี้ ในปี 50 ธนาคารจะตั้งสำรองปกติประมาณ 5 พันกว่าล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีการตั้งสำรองไปแล้วกว่า 2 พันล้านบาท และจะตั้งสำรองเพิ่มอีกประมาณ 2 พันล้านบาทในครึ่งปีหลัง
นายบัณฑูร กล่าวว่า การตั้งสำรองดังกล่าวจะไม่กระทบกำไรของธนาคาร เพราะแผนการตั้งสำรองดังกล่าวอยู่ในแผนงานของธนาคารอยู่แล้ว และการตั้งสำรองจะประเมินภาวะเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย ซึ่งปกติการตั้งสำรองจะทยอยตั้งสำรองไตรมาสละ 1 พันกว่าล้านบาท ส่วนการตั้งสำรองตามเกณฑ์ IAS39 ธนาคารตั้งสำรองครบตามเกณฑ์แล้ว
ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า Net Interest Margin ( NIM) ของธนาคารบริหารได้ดีทั้งด้านผลตอบแทน และการบริหารต้นทุน ทำให้ NIM ของ KBANK ยังอยู่ระดับสูง เนื่องจากธนาคารจะหลีกเลี่ยงการแข่งขันตัดราคาเพื่อรักษาผลตอบแทน ขณะเดียวกันธนาคารก็มีการระดมเงินเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า
"เราต้องดูการแข่งขัน และดูสภาพแวดล้อม แต่ตอนนี้สภาพคล่องเรายังไม่ตึงตัวและยังสภาพคล่องเกิน 1 แสนล้านบาท" นายประสาร กล่าว
*เปิดตัว K NOW หวังสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
นายบัณฑูร กล่าวว่า ธนาคารได้เปิดตัว บริการ K NOW (เค-นาว) ซึ่งเป็นบริการมิติใหม่ เป็นการให้บริการที่มากกว่าบริการทั่วไป โดยจะมีข้อมูลและให้คำปรึกษาจำเป็นใช้ในชีวิต ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันในรูปแบบเดิม เนื่องจากมองว่าธนาคารที่จะอยู่รอดต่อไป ต้องหลีกเลี่ยงการแข่งข้นด้านราคา รวมถึงมีการให้บริการครบวงจร เช่น การให้บริการสินเชื่อบ้าน ก็จะบริการให้ข้อมูลทั้งในเรื่องแบบบ้าน ดูฮวงจุ้ย การตกแต่ง รวมถึงการให้บริการการขอสินเชื่อบ้าน
แม้ว่าการบริการดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของธนาคารสูงขึ้น แต่เชื่อว่าไม่เกิน 5 ปี บริการ K NOW จะช่วยสนับสนุให้ธนาคารมีกำไรเติบโตขึ้น
นายบัณฑูร กล่าวว่า ธนาคารยอมรับการเปิดบริการมีต้นุทนเพิ่มขึ้นทั้งในแง่บุคคลากกรและเงินทุน แต่เพียงต้องการหลีกหนีการแข่งขันที่รุนแรงของกลุ่มธนาคาร ซึ่ง K NOW จะช่วยให้ลูกค้ามีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการของ KBANKมากขึ้น เช่นการใช้สินเชื่อ ประเภทต่างๆ เป็นต้น
" ช่วงปีแรกเป็นเรื่องการสร้างให้ลูกค้ารู้จัก K NOW ว่าเป็นบริการเสริมนอกเหนือการให้บริการทางการเงิน เพราะต้องยอมรับว่า ตอนนี้ไม่ว่าแบงก์ไหน สินค้าก็ไม่แตกต่างกัน ดังนั้นเราจะต้องสร้างรูปแบบทางการเงินใหม่ ...เราจะต้องมองให้กว้างไปจากเดิม นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ และตัวนี้จะเป็นองค์ความรู้ เพื่อเสริมทางการเงินและให้มีชีวิตที่ดี ภายใต้เงินที่มีอยู่จำกัด" นายบัณฑูรกล่าว
ทั้งนี้ การให้บริการ K NOW ธนาคารมีรายละเอียดในเว็บไซด์ของ KBANK
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--