หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ขยับขึ้นได้เป็นส่วนใหญ่ เมื่อเวลา 10.35 น.หุ้นที่มีการซื้อขายคึกคักนำ โดยหุ้น KTC บวก 1.12% มาอยู่ที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 439.26 ล้านบาท
หุ้น MICRO บวก 1.11% มาอยู่ที่ 9.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 4.49 ล้านบาท
หุ้น SAWAD บวก 0.69% มาอยู่ที่ 72.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 69.71 ล้านบาท
หุ้น TIDLOR บวก 0.58% มาอยู่ที่ 43 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 81.41 ล้านบบาท
หุ้น MTC บวก 0.43% มาอยู่ที่ 58.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 244.02 ล้านบาท
บทวิเคราะห์ของ บล.เอเชียพลัส มองประเด็นข่าวเกี่ยวกับการธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อยที่มีเพดานอัตราดอกเบี้ยเกิน 20% ลง 1-2% จากปัจจุบัน ได้แก่ สินเชื่อบุคคล (เพดานอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน 25%) สินเชื่อจำนำทะเบียน (เพดานอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน 24%) และสินเชื่อนาโน (เพดานอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน 33%) โดยจะไม่ปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบัตรเครดิตที่ปัจจุบันอยู่ที่ 16%
ฝ่ายวิจัยประเมินผลกระทบจำกัด เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเพดานอยู่แล้ว ทั้งนี้ ปัจจุบัน AEONTS คิดดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคล (50% ของสินเชื่อรวม) ที่ราว 23% ต่ำกว่าเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลที่ 25% อยู่แล้ว จึงประเมินผลกระทบจำกัด
ขณะที่ MTC SAWAD และ TIDLOR ก็คิดอัตราดอกเบี้ยจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่ราว 12-18% จากการแข่งขันที่สูงขึ้นตั้งแต่ปลายปี 63 ต่ำกว่าเพดานอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันที่ 24% อยู่มาก ทั้งนี้ SAWAD และ MTC มีสินเชื่อบุคคลราว 5-10% ของสินเชื่อสุทธิ และปล่อยสินเชื่อบุคคลที่อัตราดอกเบี้ยราว 23-24% โดยฝ่ายวิจัยได้สอบถามไปทาง MTC พบว่าหาก MTC ต้องการปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยราว 23-24% ก็สามารถปล่อยสินเชื่อเป็นสัญญานาโนแทนสัญญาสินเชื่อบุคคลได้ หรือหากประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลใหม่ไม่คุ้มกับความเสี่ยงก็จะปล่อยสินเชื่อบุคคลลดลง ทำให้โดยรวมแล้วฝ่ายวิจัยจึงประเมินผลกระทบจำกัด
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดผลกระทบค่อนข้างจำกัดสำหรับ MTC และ SAWAD เนื่องจากปัจจุบันคิดดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตามคาดผลกระทบต่อ KTC และ AEONTS ประมาณ 1.0% และ 1.8% ต่อการลดลงของ loan yield ทุก 10bp พร้อมแนะ"ซื้อ" MTC เป็น Top pick เป้าหมาย 68 บาท