ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง อาทิ บริษัทแอปเปิล อิงค์ และอเมริกัน เอ็กซ์เพรส เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 109.26 จุด หรือ 0.81% แตะระดับ 13,676.23 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 13.26 จุด หรือ 0.88% แตะระดับ 1,519.59 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดดีดขึ้น 45.33 จุด หรือ 1.65% แตะระดับ 2,799.26 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 3.21 พันล้านหุ้น เมื่อเทียบกับวันจันทร์ที่ 3.34 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานขึ้นมากที่สุด หลังจากบริษัทแอปเปิลรายงานว่าผลประกอบการพุ่งขึ้น 67% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อันเนื่องมาจากยอดขายคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ผลิตภัณฑ์ไอพอดและไอโฟน ที่แข็งแกร่ง ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และ ดูปองท์ ก็รายงานผลประกอบการที่สูงเกินคาดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายชาร์ลส์ โอ ฮอลลิเดย์ จูเนียร์ ผู้บริหารของดูปองท์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในระหว่างวัน ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในช่วงบ่าย
"ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่สร้างความวิตกกังวล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจลุกลามไปยังอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆในสหรัฐ ทั้งนี้ หากนักลงทุนยังไม่มีมุมมองในด้านบวก ก็อาจทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงในเร็วๆนี้" นายอเล็กซานเดอร์ แพริส นักวิเคราะห์จากแบริงตัน รีเสิร์ชในเมืองชิคาโกกล่าว
นายแพริสยังกล่าวด้วยว่า นักลงทุนกำลังปรับโพสิชันก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ในสัปดาห์นี้ โดยสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองในวันพฤหัสบดี และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ในวันศุกร์
"นอกจากนี้ นักลงทุนกำลังจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้ เพื่อดูว่าเฟดจะตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยอย่างไรในยามที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหลังจากที่ปรับลดลงไปแล้ว 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย." นายแพริสกล่าว
ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 6.3% หลังจากบริษัทรายงานว่ายอดขายคอมพิวเตอร์แมคอินทอชพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.16 ล้านเครื่องในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 34% จากปีที่แล้ว ขณะที่หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรสทะยานขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยขกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 10%
ส่วนหุ้นดูปองท์เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ ปิดที่ 46.81 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเพราะได้รับปัจจัยบวกจากยอดขายที่แข็งแกร่งในละตินอเมริกา นอกจากนี้ บริษัทยังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดทั้งปี
หุ้นเอทีแอนด์ที ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของสหรัฐ ดีดขึ้น 2.1% โดยบริษัทเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้น 42% หลังจากเข้าซื้อกิจการบริษัทเบลล์เซาท์ คอร์ป
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--