ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) โดยดัชนีสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 6,700 จุดได้เพราะได้รับแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มทรัพยากร และจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นอันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 44.7 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 6,706.0 จุด
คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะประชุมร่วมกันในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวขึ้น
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และราคาพลาตินั่มทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ โดยหุ้นเวดันตาดีดขึ้น 47 เพนซ์ ปิดที่ 2,230 เพนซ์ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดีดขึ้น 25 เพนซ์ ปิดที่ 1,868 เพนซ์ ส่วนหุ้นเอ็กสตราต้าพุ่งขึ้น 48 เพนซ์ ปิดที่ 3,576 เพนซ์ หลังจากมีข่าวว่าบริษัทเอ็กสตราต้าเสนอซื้อกิจการบริษัทจูบิลี ไมน์ส ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองนิกเกิ้ลของออสเตรเลีย
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบช่วยกระตุ้นการซื้อขายในหุ้นกลุ่มบริษัทน้ำมันคึกคักขึ้นด้วย โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดขึ้น 13 เพนซ์ ปิดที่ 2,144 เพนซ์ หุ้นบีพีบวกขึ้น 5 เพนซ์ ปิดที่ 634 เพนซ์ หุ้นทุลโลว์ ออยล์ บวกขึ้น 10 เพนซ์ ปิดที่ 640 เพนซ์ แต่หุ้นเครน เอ็นเนอร์จี ร่วงลง 57 เพนซ์ ปิดที่ 2,406 หลังจากนักวิเคราะห์ของเดรสเนอร์ ไคลน์เวิร์ต และยูบีเอส ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--