นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) เปิดเผยว่า บริษัทแตกไลน์ธุรกิจขยายการลงทุนทางด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กลุ่ม Medical เครื่องมือทางการแพทย์จากพลาสติกใช้แล้วทิ้ง อาทิ ไซริงค์พลาสติก, วาล์ว สายน้ำเกลือ, เข็มฉีดยา รวมถึงเครื่องมือแพทย์อื่นๆ เพื่อสร้างการเติบโตรอบใหม่ (New S-curve) ให้กับบริษัทในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนมาต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่าตลาดในอุตสาหกรรมดังกล่าว อัตรากำไร (มาร์จิ้น) และแนวโน้มการเติบโตสูง โดยจะเห็นได้จากอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10-15% ต่อปี จากมูลค่าตลาดในประเทศไทยที่เป็นหลักหลายหมื่นล้านบาท
ส่วนงบการลงทุนในการซื้อเครื่องจักรใหม่ รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่โซนการผลิต Medical นั้น บริษัทจะนำเสนอกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาให้ความเห็นและอนุมัติในการประชุมคณะกรรมการต่อไป และหากแผนการพิจารณามีความชัดเจน บริษัทก็สามารถดำเนินการผลิตและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 1/65
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเร่งวางแผนทำการตลาดในการเตรียมนำเข้าผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าวมาจำหน่ายให้ทันภายในไตรมาส 4/64 เพื่อทำการตลาดก่อนที่จะผลิตและจำหน่ายในเชิงรุกช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า โดยบริษัทจะเน้นเจาะกลุ่มโรงพยาบาลและร้านเวชภัณฑ์ ในประเทศเป็นหลัก ทำให้ช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้ามา และจะมีรายได้จากการผลิตและจำหน่ายเข้ามาชัดเจน ตั้งแต่ไตรมาส 1/65 เป็นต้นไป
บริษัทตั้งเป้าในปี 65 จะรับรู้รายได้จากธุรกิจดังกล่าวเข้ามากว่า 300 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท ในปี 67 จากการรุกตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากตลาดในประเทศ โดยการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจะสอดรับกับนโยบายที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของประเทศในภูมิภาค (Medical Hub) ในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ ทุ่นลอยน้ำ เพื่อรองรับการลงทุนโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนน้ำ (Floating Solar) โดยจะเริ่มผลิตและจำหน่ายในปี 65 เนื่องจากมองว่าผลิตภัณฑ์นี้มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเกิดวิกฤติการณ์โลกร้อนในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ทุกประเทศทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญนโยบายส่งเสริมและพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดมากขึ้น บริษัทฯ จึงเล็งเห็นถึงความต้องการของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
"บริษัทเดินหน้าสู่เป้าหมาย New S-curve มุ่งแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อต่อยอดมูลค่าเพิ่มในธุรกิจเดิม โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 กลุ่ม คือ เครื่องมือทางการแพทย์จากพลาสติกใช้แล้วทิ้ง และผลิตภัณฑ์ทุ่นลอยน้ำ เนื่องจากทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ ยังมีดีมานด์การเติบโตอย่างต่อเนื่องและได้รับอานิสงส์จากนโยบายที่ประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็น Medical Hub รวมถึงนโยบายการส่งเสริมโครงการพลังงานสะอาด ดังนั้นโดยส่วนตัวมองว่า การต่อจิ๊กซอว์โมเดลทางธุรกิจในครั้งนี้จะหนุนให้บริษัทฯมีแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ" นายวิวรรธน์ กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-10% จากทิศทางการฟื้นตัวของทุกกลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นพลาสติก ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก และธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในครึ่งปีหลังปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ทำให้สามารถลดภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายในปีนี้ได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 24 มิ.ย.64 บริษัทจัดประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อขอพิจารณาอนุมัติการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่1 (PJW-W1) จำนวนไม่เกิน 191.35 ล้านหน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ อายุ 3 ปี มีราคาใช้สิทธิแปลงสภาพที่ 3 บาทต่อหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ PJW-W1 โดยเม็ดเงินที่ได้จากการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญครั้งนี้เป็นการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อรองรับการขยายกิจการการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯในอนาคตในการนำไปเป็นเงินทุนในการขยายและต่อยอดการลงทุนของบริษัทฯสำหรับการขยายและต่อยอดในธุรกิจ New S-curve