นางยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บล.เอเซีย พลัส ในฐานะแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) กล่าวว่า MENA อยู่ระหว่างเตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปคร้งแรก (IPO) ราวปลายเดือน มิ.ย.นี้ และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงต้นเดือน ก.ค.64
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MENA เปิดเผยว่า บริษัทได้นำเสนอข้อมูลธุรกิจ จุดแข็ง และโอกาสการเติบโตในอนาคตให้แก่นักลงทุนในวันนี้ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 184 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ บริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 367 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 275 ล้านบาท
โดยมี บล. เอเซีย พลัส ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ร่วมให้ข้อมูลความน่าสนใจของ MENA พร้อมต่อยอดความสำเร็จหลังการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตร รักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจ อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
MENA เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ นอกจากนี้บริษัทยังให้บริการขนส่งสินค้าเฉพาะทาง และสินค้าอุปโภคบริโภค ด้วยรถเทรลเลอร์ รวมทั้งจำหน่ายอุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง ด้วยจุดเด่นในการบริหารจัดการรถ รวมจำนวนมากกว่า 600 คัน และพนักงานจัดส่งกว่า 500 คน พร้อมรองรับการขยายงานของลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าแผนขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ในช่วงปลายปีนี้ จากเดิมแข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นบริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำ จึงได้รับปัจจัยบวกจากการขยายงานโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นแผนระยะยาว และมีความต้องการใช้บริการขนส่งของ MENA อย่างต่อเนื่อง
ด้วยจุดเด่นของ MENA มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจให้บริการขนส่ง สามารถรองรับงานได้หลากหลายและมีกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ โดยเป็นผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถมิกเซอร์ที่มีจำนวนรถเป็นอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม มีความพร้อมในการรับงานขนาดใหญ่ พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service และมี Economy of scale ในการขยายกองยาน ไม่ทำให้ค่าใช้จ่ายการบริหารกองยานเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรสม่ำเสมอ และมีกำไรสะสมอยู่ในระดับสูง โดย ณ ไตรมาส 1/2564 มีกำไรสะสมอยู่ที่ 211 ล้านบาท และบริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีกองยานรถมิกเซอร์จำนวน 466 คัน และมีรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) 75 คัน นอกจากนี้ ยังมีรถกึ่งพ่วง หรือหางลากประเภทต่างๆ 105 คัน รวมทั้ง มีพนักงานจัดส่งภายใต้การบริหารกว่า 500 คน
วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ โดยโครงการในอนาคตของบริษัทฯ มีนโยบายกำหนดอัตราผลตอบแทนภายในขั้นต่ำ (IRR) เพื่อประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น