นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข.เตรียมปรับเป้าผลตอบแทนการลงทุนในปี 50 เพิ่มเป็น 9-10% จากเป้าเดิม 7% และจะทำให้สินทรัพย์สุทธิในสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 3.8 แสนล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.75 แสนล้านบาท
เนื่องจาก กบข.มีการกระจายการลงทุนที่หลากหลายและให้ผลตอบแทนที่ดี ทั้งการลงทุนในตราสารหนี้และการลงทุนในหุ้น ซึ่งในปีนี้ที่เหลือ กบข.จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นทั้งในและต่างประเทศ เป็น 25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20%
โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ กบข.จะเพิ่มการลงทุนหุ้นในประเทศ เป็น 12-13% จาก 12.37% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่การลงทุนในหุ้นต่างประเทศจะเพิ่มการลงทุนเป็น 12% เป็นเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท จาก 8% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา
"การที่เราหันไปลงทุนหุ้นในต่างประเทศมากขึ้น นอกเหนือจากจะกระจายความเสี่ยงแล้ว เรายังมองว่า หุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ จะเป็นในหุ้นกลุ่มพลังงาน และ ธนาคาร ซึ่งได้ปรับตัวสูงเกินไปแล้ว" นายวิสิฐ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ได้ 33.47%นั้น มาจากการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน สัดส่วน 30-40% ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของดัชนีหุ้นไทย (SET)
นายวิสิฐ กล่าวถึงหุ้น บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC)ว่า กบข.คงจะไม่ขายหุ้นออกไป แม้จะครบไซเลนท์พีเรียดในเดือนธ.ค.นี้ เพราะเห็นเป็นหุ้นเพื้นฐานดีและให้ผลตอบแทนที่ดี
ขณะที่การลงทุนหุ้นในต่างประเทศ คาดว่าภายใน 2 เดือนข้างหน้าจะลงทุนได้ตามเพดานที่ 25% จะทำให้ผลตอบแทนที่กบข.เข้าลงทุนปรับตังสูงขึ้น
นอกจากนี้ ในช่วง 2 เดือนข้างหน้า กบข.จะร่วมลงทุนในการจัดตั้งกองทุนไทยทวีทุน 2 ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับนักลงทุนจากบรูไน และยังมีนักลงทุนสถาบันในประเทศเข้ารวมทุนด้วย มูลค่าของกองทุนดังกล่าว อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท เป็นกองทุน Private Equity Fund โดยคาดหวังผลตอบแทนจากกองทุนดังกล่าว 15-20% โดยกองทุนนี้จะลงทุนในหุ้นนอกตลาดและในประเทศ
ส่วนกองทุนไทยทวีทุน ที่ได้จัดตั้งแล้ว มูลค่าทรัพย์สินรวม 4-5 พันล้านบาทให้ผลตอบแทน 1 ปี ย้อนหลังอยู่ที่ 9-10%
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--