นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บมจ.โออิชิ กรุ๊ป (OISHI)ตั้งเป้ารุกธุรกิจอาหารมากขึ้นในปี 51 โดยจะเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 40% จาก 30% ในปีนี้ ด้วยการขยายสาขาร้านอาหารอีกกว่า 20 สาขา เน้นอาหารญี่ปุ่น และยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารแบรนด์ดังติด TOP5 ในญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
"แฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่จะซื้อมาในปีหน้า ถือว่าเป็นร้านอาหารสไตล์ใหม่ในประเทศไทย ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อนำเข้ามาแล้วจะต้องได้รับความนิยม และทำรายได้ 20% ให้กับบริษัท คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาเร็วๆ นี้"นายตัน กล่าว
สำหรับร้านอาหารที่จะขยายสาขาเพิ่มในปีหน้า 20 สาขา แบ่งเป็น Delco 9 สาขา จาก 5 สาขา ณ สิ้นปี 50, ชาบูชิ 4 สาขา, โออิชิ ราเมน 4 สาขา, ซูชิบาร์ 2 สาขา และ โออิชิ บุฟเฟ่ต์ 1 สาขา
นายตัน กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจอาหารญี่ปุ่นในช่วงนี้และอนาคตจะมีอัตราการเติบโตสูงมาก ปีละ 20-30% แต่ขณะเดียวกันภาวะการแข่งขั้นก็สูงตามไปด้วย โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่นที่เป็นคู่แข่งหลักๆ คือ Fuji และ Zen อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการใหม่ๆเกิดขึ้นในตลาด มีทั้งที่ลงทุนทำเอง และเซ็นสัญญาแลกเปลี่ยนกัน เช่น ร้าน MK สุกี้ กับร้านอาหารญี่ปุ่น"Yayoi" และเชื่อว่าในปี 51 จะมีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่เกิดขึ้นในตลาดอีกจำนวนมาก
"ผมเชื่อว่าแนวโน้มในอีก 3-5 ปีข้างหน้า อาหารญี่ปุ่นจะเป็นอาหารของคนไทย มูลค่าตลาดรวมจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาทจาก 5-6 พันล้านบาทในปัจจุบัน"นายตัน กล่าว
นายตัน กล่าวถึงหนังโฆษณาตัวแรกในรอบ 8 ปี ของธุรกิจอาหาร ว่า จะมีทั้งหมด 5 เรื่อง นอกจากนี้ยังมีการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ อีก ใช้งบการตลาดในช่วง พ.ย.-ธ.ค.50 ประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนงบโฆษณาในปีหน้า จะใช้งบประมาณ 5% ของยอดขาย
นายตัน กล่าวว่า คาดว่าในปี 51 รายได้จะเติบโต 20% จากที่มีรายได้ 4 พันล้านบาทในปีนี้
ส่วนธุรกิจเครื่องดื่ม ปี 51 ยังคงมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่อีกประมาณ 5-6 ตัว ใกล้เคียงกับปีนี้
สำหรับปัญหาเรื่องภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงต้นทุนทางด้านอื่นๆ นั้น ตราบใดที่ไม่ส่งผลกระทบต่องกำไรของบริษัท ก็จะไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าอย่างแน่นอน
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--