แม่-ลูก TSTH ร่วง โดยหุ้น TSTH ลบ 1.59% อยู่ที่ 1.86 บาท ลดลง 0.03 บาท เมื่อเวลา 10.17 น.โดยเปิดตลาดที่ 1.88 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 1.88 บาท และราคาปรับลงต่ำสุดที่ 1.85 บาท
TSTH-W1 ลบ 1.52% อยู่ที่ 0.65 บาท ลดลง 0.01 บาท
บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ปรับลดคำแนะนำ TSTH จาก ถือ เป็น ขาย หลังประกาศผลประกอบการงวด 2Q50/51( ก.ค.-ก.ย.) มีกำไรสุทธิ 167 ล้านบาท แต่ถ้าหักรายการพิเศษคือผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ถาวรจำนวน 48 ล้านบาท จะทำให้มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 215 ล้านบาท ลดลง 22%YoY
แม้ว่างวด 2Q50/51 TSTH จะสร้างยอดขายได้เติบโตถึง 33%YoY มาอยู่ที่ระดับ 6,653 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากความได้เปรียบเหนือคู่แข่งด้านวัตถุดิบที่ TSTH ใช้เศษเหล็กในประเทศเป็นวัตถดิบ ขณะที่คู่แข่งต้องใช้ Billet จากต่างประเทศที่ราคาปรับขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่คุ้มที่จะนำเข้ามาผลิต
อย่างไรก็ตาม gross margin ที่ลดลงเหลือเพียง 8.2% จากที่เคยรักษาไว้ได้ที่ระดับมากกว่า 12% ในหลายไตรมาสที่ผ่านมา ได้สร้างแรงกดดันต่อกำไร คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากการเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเพื่อชดเชยกำลังซื้อในประเทศที่ลดลงตามฤดูกาลในช่วงหน้าฝน โดยที่ margin จากการส่งออกจะต่ำกว่าการขายในประเทศมาก ด้านโครงสร้างการเงิน ณ สิ้น 30 ก.ย. 50 TSTH มี Net Gearing ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 0.37 เท่า และมีมูลค่าหุ้นตามบัญชีที่ 1.73 บาท
ผลประกอบการ 2Q50/51 ที่ชะลอตัว ทำให้งวด 1H50/51 TSTH มีกำไรจากการดำเนินงานคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 45% จากประมาณการทั้งปี โดยฝ่ายวิจัยยังคงประมาณกำไรปี 2550/51 ไว้ที่ 1,311 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ P/E มากกว่า 12 เท่า ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงหากเทียบกับบริษัทอื่นในกลุ่มเหล็กที่ซื้อขายที่ระดับ P/E 6-10 เท่า จากความคาดหวังการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต จากการลงทุนสร้าง Mini Blast Furnace ซึ่งจะทำให้มีกำลังการหลอมเหล็กเพิ่มจาก 1.2 ล้านตัน/ปี เป็น 1.7 ล้านตัน/ปี
แต่คาดว่าผลประโยชน์จากโครงการดังกล่าวจะยังไม่เห็นผลชัดเจนในปี 2551 เนื่องจากโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค. 51 โดยกำหนด Fair value ที่ระดับ P/E 10 เท่า จะให้ราคาหุ้นเหมาะสม ณ สิ้น มี.ค 51 ที่ 1.56 บาท ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน โดยมี Dividend Yield ที่ค่อนข้างต่ำเพียง 3.3%
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--