นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) เปิดเผยว่า สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างพยายามหาความชัดเจนเกี่ยวกับคำสั่งของทางการที่ให้หยุดงานก่อสร้างและปิดแคมป์คนงานเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งยังต้องลวลึกรายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงมาตรการเยียวยาต่อผู้ประกอบการที่จะได้รับความเสียหายาจากการชะลองานก่อสร้าง
"ขณะนี้ยังคงเร็วไปที่จะประเมินความเสียหายได้ เพราะคงต้องลงในรายละเอียดของประกาศแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนมากกว่านี้ เพราะยังมีหลายข้อที่ยังคงเป็นข้อสงสัยในทางปฏิบัติ"นายภาคภูมิ ระบุ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคำสั่งดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบให้โครงการก่อสร้างต่าง ๆ ต้องล่าช้าออกไป และผลกระทบจริงคงมากกว่า 1 เดือน เพราะต้องใช้เวลาในการเคลื่อนย้ายออก และเข้ามาเริ่มงานก่อสร้างใหม่อีกครั้งเมื่อครบกำหนด อีกทั้งหลังการปิดพื้นที่ก่อสร้างก็ต้องเคลื่อนย้ายเครื่องมือเครื่องจักรไปไว้ในสถานที่ปลอดภัยระหว่างหยุดงาน โดยยังไม่รู้ว่าการหยุดงาน 1 เดือนจะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จบหรือไม่
สำหรับแนวทางของบริษัทในขณะนี้สิ่งแรกคือ จะให้ความร่วมมือกับภาครัฐด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม ทำความเข้าใจกับแรงงาน พยายามลดความกดดันของแรงงานที่ได้รับผลกระทบในแง่รายได้ และให้การดูแลในเบื้องต้นไปก่อน เพราะเข้าใจว่าขั้นตอนของภาครัฐในการเยียวยาคงต้องใช้เวลาบ้างตามระเบียบราชการ
"แน่นอนว่าการตัดสินใจประกาศหยุดงานและปิดแคมป์ มีผลกระทบกับค่าใช้จ่ายที่บริษัทยังคงต้องมี และจะขาดรายได้ที่จะเข้ามาจากการทำงานตามสัญญา รายละเอียดเข้าใจว่าเรื่องการขยายระยะเวลาก่อสร้าง ภาครัฐและผู้ว่าจ้างคงเข้าใจและไม่น่าเป็นประเด็นอะไร สิ่งที่อยากขอให้รัฐดูแลก็คือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการตามสมควร ซึ่งคงต้องคุยในรายละเอียดต่อไป"นายภาคภูมิ กล่าว
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ในเบื้องต้นคาดว่าจะกระทบงานก่อสร้าง 1-2 เดือน และเมื่อกลับมาทำงานได้ตามปกติจะมีการประเมินกันอีกครั้ง
ในส่วนนักลงทุน บริษัทฯคงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายมากกว่าประมาณการ ขณะที่รายได้อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 100% แต่นโยบายของบริษัทคือจะดูแลทุก stakeholder ทุกภาคส่วนให้ดีที่สุดในสถานการณ์ที่อาจถือว่าอยู่ในช่วงไม่ปกติของอุตสาหกรรมก่อสร้าง
"เราจะปฏิบัติตามคำสั่งการและให้ความร่วมมือกับภาครัฐทุกประการเราจะมี action plan ทั้งระยะสั้นและยาวที่จะบรรเทาความเสียหายให้น้อยที่สุดต่อผู้ถือหุ้น ดูแลพนักงานและแรงงานให้มีขวัญและกำลังใจที่ดี รวมทั้งร่วมในการรับผิดชอบกับสังคม เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในภาพรวมของประเทศให้ดีขึ้น"นายภาคภูมิ กล่าว