INTERVIEW: GLOCON คาด Q2/64 พลิกกำไรแม้ร้านอาหารถ่วง,Plant Based Food ดัน H2/64-กัญชงหนุนปี 65

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 30, 2021 10:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

INTERVIEW: GLOCON คาด Q2/64 พลิกกำไรแม้ร้านอาหารถ่วง,Plant Based Food ดัน H2/64-กัญชงหนุนปี 65

น.ส.หลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ (GLOCON) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าแนวโน้ม ผลประกอบการไตรมาส 2/64 จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ จากไตรมาส 1/64 มีผลขาดทุนสุทธิ 7.12 ล้านบาททรงตัวจากช่วงเดียวกันของ ปีก่อน โดยคาดว่าจะมีรายได้เติบโตเป็นกว่า 500 ล้านบาท จากไตรมาสแรกทำได้ 418.49 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของทุก ธุรกิจ ทั้งธุรกิจอาหารแปรรูป หรือสินค้าอาหารแช่แข็งพร้อมทาน, ธุรกิจผลไม้อบแห้ง และธุรกิจบรรจุภัณฑ์

ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารยังถ่วงอยู่ โดยยอมรับว่าร้าน A&W เป็นความเสี่ยงเดียวของบริษัท เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจาก สถานการณ์โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์เปลี่ยนจากการขายผ่านร้านค้าในรูปแบบเดิม มาเป็น A&W Foodtruck เพื่อเคลื่อนย้ายไปตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว เช่น ปั๊มน้ำมัน, อาคารสำนักงาน และ ศูนย์การค้าต่างๆ เป็นต้น เพื่อ เพิ่มยอดขาย รวมถึงขยายจุดขาย A&W Express ในสาขา 7-Eleven ปัจจุบันมีแล้ว 18 สาขา และจะขยายไปให้ครบทุกสาขาของ 7- Eleven น.ส.หลุยส์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายให้ A&W Foodtruck คืนทุนได้ภายใน 7 ปี และ A&W Express จะคืนทุนได้ภาย ใน 8 ปี ดังนั้น ยอมรับว่าภาพรวมของธุรกิจร้าน A&W ในปีนี้จะยังขาดทุนเท่ากับปีก่อนที่มีผลขาดทุนราว 50 ล้านบาท แต่จะถูกชดเชยจาก ธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถเติบโตได้ดี

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทคาดว่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก หลังจากมุ่งเน้นการออกผลิตภัณฑ์อาหาร โปรตีนจากพืช (Plant Based Food) ภายใต้แบรนด์ Kitchen Plus ภายหลังการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท กรีน มันเดย์ โฮลดิ้ง จำกัด (GM) ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่าย Plant Based Food ระดับโลก เจ้าของแบรนด์ OMNIMEAT มาร่วมพัฒนา ผลิตภัณฑ์ Plant Based Food สำเร็จรูปพร้อมทาน ล่าสุดมีผลิตภัณฑ์ออกมาแล้ว เช่น กระเพราะหมู, ลาบทอด เป็นต้น ทดลองวาง จำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดในไทยแล้ว และเตรียมขยายตลาดไปยังต่างประเทศในเดือนส.ค.นี้ในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนรุกธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชง โดยที่ผ่านมาได้ติดตั้งเครื่องจักรที่จะใช้สกัดสารจากเมล็ดกัญ ชงแล้ว คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตการผลิตสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มจากน้ำมันเมล็ดกัญชงจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและ ยา (อย.) ภายในเดือน ก.ย.นี้ จากนั้นจะเริ่มออกผลิตภัณฑ์ในไตรมาส 4/64 จึงน่าจะรับรู้รายได้เข้ามาอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 65 เป็นต้น ไป

น.ส.หลุยส์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนจะย้ายกำลังการผลิตไปยังโรงงานแห่งใหม่ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการ ผลิต (Capacity) เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ทั้งนี้ เพื่อรองรับ Plant Based Food และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชง รวมถึงการขยายตลาด ต่างประเทศ

ส่วนธุรกิจผลไม้อบแห้ง อาหารแช่แข็งพร้อมทาน และบรรจุภัณฑ์ มองว่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายตลาดใหม่ๆ และพัฒนาสินค้าร่วมกับลูกค้า

น.ส.หลุยส์ กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 2,100 ล้านบาท เติบโตราว 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ รวมอยู่ที่ 1,560.25 ล้านบาท โดยจะมาจากธุรกิจผลไม้อบแห้งราว 600 ล้านบาท, ธุรกิจอาหารแช่แข็ง 673 ล้านบาท, ธุรกิจเทรดดิ้ง โดยเฉพาะแบรนด์ Kitchen Plus คาดมีรายได้ที่ 61 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์คาดทำได้ใกล้เคียงเดิม ที่เหลือเป็นธุรกิจอื่นๆ

ด้านธุรกิจร้านอาหารปีนี้จะยังขาดทุนอยู่ จากร้าน A&W ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ต่อเนื่อง และร้านอาหารคิทเช่น พลัส ที่คงเหลืออยู่ 2 สาขา ขณะนี้ได้ปิดพื้นที่นั่งรับประทานอาหารตามมาตรการของรัฐ อย่างไรก็ตามในส่วนนี้บริษัทมองว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ ผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญมากนัก เมื่อเทียบกับการเติบโตของธุรกิจอื่นแล้วสามารถชดเชยผลขาดทุนดังกล่าวได้แน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ