นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลประกาศมาตรการปิดแคมป์ก่อสร้างเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 นั้น บริษัทพร้อมปฏิบัติตามมาตรการรัฐ โดยให้ความร่วมมือปิดแคมป์งานก่อสร้าง 30 วัน รวมทั้งออกแนวทางส่งเสริมด้านความปลอดภัยในแคมป์ก่อสร้างอย่างเต็มที่เพื่อช่วยผลักดันการแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อ
ทั้งนี้ SIRI ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดแคมป์ก่อสร้าง เนื่องจากบริษัทวางแผนการบริหารงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ (Speed to Market) รองรับทุกสถานการณ์ไว้แล้ว โดยล่าสุดมีที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่และพร้อมโอน สามารถรองรับความต้องการลูกค้าได้ทันที ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม มูลค่ารวม 1.4 หมื่นล้านบาท ได้แก่ คอนโดมิเนียม XT ห้วยขวาง, XT เอกมัย, โอกะ เฮาส์, เดอะ เบส สะพานใหม่ KHUN by YOO inspired by Starck, เดอะ เบส เซ็นทรัล?ภูเก็ต, ดีคอนโด บลิส ศรีราชา และลา ฮาบานา หัวหิน
นอกจากนี้ยังเตรียมโอน คอนโดมิเนียม ดีคอนโด ไฮด์อเวย์?รังสิต และ เอดจ์ เซ็นทรัล-พัทยา ในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงยังมีบ้านเดี่ยวแบรนด์คณาสิริ สราญสิริ บุราสิริ และเศรษฐสิริ บ้านและทาวน์โฮมแบรนด์ อณาสิริ รวมถึงโครงการทาวน์โฮมแบรนด์สิริ เพลส หลากหลายระดับราคา ตอบรับความต้องการในทุกเซกเมนต์ให้เลือกถึงกว่า 57 โครงการ
"แสนสิริไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดแคมป์ก่อสร้าง สามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าได้ตรงเวลา รวมทั้งยังมีที่อยู่อาศัยพร้อมเข้าอยู่?พร้อมโอน รองรับความต้องการของลูกค้าได้ทันที รวมถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการโอน และรับรู้รายได้ ในไตรมาส 2/64 เนื่องจากที่อยู่อาศัยที่ต้องส่งมอบได้สร้างเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งคาดการณ์ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบต่อภาพรวมในปีนี้ เพราะเราได้เตรียมทำแผน catch up งานก่อสร้างหลังกลับมาเริ่มก่อสร้างได้ไว้เรียบร้อยแล้ว"นายเศรษฐา กล่าว
บริษัทมั่นใจในผลการดำเนินงานที่จะทำได้ตามเป้าหมาย จากการที่บริษัทมียอดรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกและมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่ครอบคลุมเป้าหมายรายได้ในปีนี้ไปแล้วถึง 78% ซึ่งเหลือที่ต้องทำอีกเพียง 22% ในครึ่งปีหลัง รวมถึงยอดโอนในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทก็ทำไปได้แล้วถึง 1.47 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 50% จากเป้าหมายยอดโอนที่วางไว้ในปีนี้ 3.1 หมื่นล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ และตอกย้ำความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ SIRI ได้เป็นอย่างดี
SIRI ยังมีจุดแข็งจากการมีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยด้วยระบบพรีคาสต์อยู่ในมือ ภายใต้กำลังการผลิตถึง 1.2 ล้านตารางเมตร รองรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยได้ถึง 3,500 ยูนิต/ปี ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยในโรงงานแห่งใหม่ ทำให้ลดแรงงานในงานก่อสร้าง แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ลดระยะเวลาในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย เช่น งานโครงสร้างได้แล้วเสร็จในระยะเวลาเพียง 3-7 วัน
นอกจากนี้ การก่อสร้างด้วยระบบพรีคาสต์ ยังทำให้เกิดการผลิตหรืองานก่อสร้างที่มีปริมาณที่สูง ช่วยส่งเสริม Supply Chain ในอุตสาหกรรมก่อสร้างได้เป็นอย่างดี และล่าสุดยังชูความพร้อมในการพัฒนาที่อยู่อาศัยด้วยเทคโนโลยีและกำลังการผลิตในโรงงานพรีคาสต์ที่สามารถก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้อย่างรวดเร็ว โดยงานโครงสร้างที่อยู่อาศัยด้วยระบบพรีคาสต์แล้วเสร็จรองรับไปจนถึงไตรมาส 1/65 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้ SIRI สามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยคุณภาพให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งควบคุมต้นทุนทางการเงินในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้ดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งได้ในทุกสภาวการณ์