นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เค.ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค (KWM) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียน 70 ล้านบาท จาก 210 ล้านบาท เป็น 280 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 140 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
การออกหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ KWM-W1 จากการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่1(KWM-W1) จำนวนไม่เกิน 140 ล้านหน่วยให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยไม่คิดมูลค่าในอัตราการจัดสรรเท่ากับ 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ มีอายุ 2 ปี และมีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญของบริษัท 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิ 1.50 บาท
วัตถุประสงค์การออกหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้สำหรับการต่อยอด และรองรับการขยายโครงการต่างๆ ในอนาคต ทั้งในส่วนของการเพิ่มไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของอุปกรณ์ทางการเกษตร และการผลิตเครื่องจักร พร้อมศึกษาแผนการลงทุนในธุรกิจเครื่องสกัดกัญชง-กัญชา และพืชสมุนไพรไทย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและสร้างความเติบโตอย่างมั่นคงระยะยาวในอนาคตให้กับบริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ หากผู้ถือหุ้นมีการใช้สิทธิในการแปลงสภาพครบจะส่งผลให้บริษัทฯมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้บริษัทที่มีเงินทุนรองรับการเติบโตในอีก 2 ปีข้างหน้า
ปัจจุบันบริษัทมีการขยายไลน์การผลิต ในส่วนของสินค้าการเกษตรเพิ่มขึ้น หลังจากดีมานด์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคสูงขึ้นตามการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมการเกษตรในประเทศ ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีการขยายตลาดไปเจาะกลุ่ม CLMV ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการใช้อุปกรณ์ทางการเกษตรทเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อีกทั้ง บริษัทฯยังได้นำประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และ know-how ในการเป็นผู้นำด้านการผลิตนวัตกรรมอุปกรณ์การเกษตร มาแตกไลน์ธุรกิจสู่การผลิตเครื่องสกัดพืชสมุนไพรไทย รวมถึงกัญชง-กัญชา และใบกระท่อม ภายใต้แนวคิดความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรทั้งหน่วยงานราชการและภาคเอกชน เพื่อศึกษาวิจัยในการผลิตเครื่องสกัดดังกล่าว จนส่งผลให้ล่าสุด KWM มียอดคำสั่งผลิต (ออเดอร์) เข้ามาในขณะนี้ 10 เครื่อง ซึ่งจะทยอยส่งมอบให้ครบภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อมั่นว่าจากแผนการปรับกลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ไม่ต่ำกว่า 15 % เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 355.06 ล้านบาท และจะสามารถเติบโตทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้อีกครั้งต่อเนื่องจากปี 63