นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง (RT) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดแคมป์คนงานและหยุดก่อสร้าง 1 เดือนเพียงเล็กน้อยและเป็นผลกระทบระยะสั้น เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ มีเพียงโครงการเดียวที่อยู่ในเขตพื้นที่ปริมณฑล คือ โครงการก่อสร้างท่อลอดสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างทำหนังสือเพื่อขอผ่อนปรนให้สามารถก่อสร้างงานส่วนที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรืออันตรายต่อสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าทิศทางครึ่งปีหลัง 64 ยังมีแนวโน้มการเติบโตตามแผนที่วางไว้ โดยบริษัทมุ่งเน้นรับงานในประเทศที่มีมาร์จิ้นสูงและงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีงานที่ประมูลได้แล้วรอลงนามในสัญญา 3 โครงการ รวมมูลค่างาน 615 ล้านบาท ได้แก่ งานก่อสร้างทางหลวงและสะพานชั้นพิเศษ จ.สงขลา เป็นการร่วมทุนกับ บริษัท วิวัฒน์ก่อสร้าง จำกัด มูลค่าสัญญา 560 ล้านบาท, งานก่อสร้าง Slope Protection จำนวน 2 สัญญา มูลค่ารวม 55 ล้านบาท
บริษัทยังมีงานประมูลที่อยู่ระหว่างรอผล 2 โครงการ รวมมูลค่างาน 619 ล้านบาท ได้แก่ งาน Pipe Jacking โครงการก่อสร้างท่อลอดสายไฟฟ้าลงใต้ดินในกรุงเทพฯ มูลค่างาน 523 ล้านบาท และงานปรับปรุงดินชั้นฐานรากอ่างเก็บน้ำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 95 ล้านบาท รวมมูลค่างานทั้งหมด 1,200 ล้านบาท อีกทั้งยังอยู่ระหว่างเจรจารับงานเพิ่มทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ งานอุโมงค์ทางรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และ งานอุโมงค์ดินอ่อนในกรุงเทพฯ
ณ 31 มี.ค.64 บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ราว 3,213 ล้านบาท ซึ่งมีกำหนดทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องในช่วงปี 64-66 และหากโครงการต่าง ๆ เป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้จะส่งผลให้ Backlog เพิ่มขึ้นเป็น 7,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้
นายชวลิต กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทสามารถดำเนินงานได้ตามแผนและทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจาก backlog ที่มี โดยการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่แตง-แม่งัด จ.เชียงใหม่ คืบหน้า 71%, การก่อสร้างอุโมงค์โครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 3 จ.สระบุรี-จ.นครราชสีมา คืบหน้า 91%, งานก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก กรมชลประทาน จ.เลย คืบหน้า 17% และ งานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง คืบหน้า 52%
ขณะที่ งานต่างประเทศอยู่ในช่วงทยอยรับรู้รายได้จากโครงการก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำและงานปรับปรุงฐานรากเขื่อนเดือนตรี ประเทศกัมพูชา (Diversion Tunnel, Duantri Dam, Cambodia ) มูลค่า 201 ล้านบาท คืบหน้า 49%
"ครึ่งปีหลังบริษัทยังคงมุ่งเน้นการผลิตงานให้มีคุณภาพด้วยเทคนิคเฉพาะที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และเสร็จทันเวลาตามแผน อีกทั้งยังเดินหน้าประมูลงานและติดตามงานโครงการที่จะเกิดขึ้นตามแผนภาครัฐรวมถึงส่วนงานเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อเพิ่มโอกาสการรับงานใหม่ คาดว่างานทั้งหมดที่อยู่ในมือจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องตามเป้าหมาย ผลักดันให้รายได้เติบโต 20%"นายชวลิต กล่าว