นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เปิดเผยถึง กระแสการตอบรับจากกลุ่มนักลงทุนที่เข้ามามีจำนวนมาก ทำให้ MENA สามารถขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) หมดทั้งจำนวนเสนอขาย 184 ล้านหุ้น สะท้อนศักยภาพธุรกิจ และความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำธุรกิจขนส่ง ซึ่งจะมีความต้องการอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ตามแผนการลงทุนของภาคเอกชน และการพัฒนางานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐซึ่งมีแผนระยะยาวเป็น 10 ปี
ปัจจุบันบริษัทฯ มีกองยานรถมิกเซอร์จำนวน 466 คัน และมีรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) 75 คัน นอกจากนี้ ยังมีรถกึ่งพ่วง หรือหางลากประเภทต่างๆ 105 คัน เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดที่มีความแข็งแกร่ง และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้ามายาวนาน
แม้ในสถานการณ์โควิดตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ก็สามารถบริหารจัดการได้อย่างดี และมีผลประกอบการในระดับที่น่าประทับใจ รวมไปถึง สถานการณ์ล่าสุดตามมาตรการภาครัฐบาลที่ประกาศปิดแคมป์ก่อสร้างในพื้นที่สีแดง แต่ MENA ยังมีงานขนส่งในพื้นที่อื่นๆ และการบริหารจัดการรถเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในพื้นที่อื่นๆ ได้ อีกทั้ง คาดว่าความต้องการจะกลับมาทวีคูณเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เนื่องจากงานโปรเจ็กต์เหล่านี้ต้องเดินหน้าตามกำหนดการเดิมที่วางไว้ อย่างไรก็ดี สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/2564 คาดผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย เติบโตขึ้นจากการบริหารจัดการรถขนส่งสินค้าสอดรับดีมานด์ในตลาดได้
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ รวมมูลค่า 220.80 ล้านบาท จะนำไปลงทุนขยายกองยานรถขนส่ง หรือการจับมือพันธมิตรเพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก ประมาณ 73% ภายในปี 2565 โดยบริษัทฯ มีนโยบายกำหนดอัตราผลตอบแทนภายในขั้นต่ำ (IRR) เพื่อประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น ส่วนที่เหลือ บริษัทฯ จะนำไปใช้จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ เพื่อสนับสนุนให้บริษัทฯ แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นางยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บล.เอเซีย พลัส ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ MENA เปิดเผยว่า ในช่วงเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอของ MENA ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา มีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาอย่างล้นหลาม สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ MENA และโอกาสในการขยายบริการด้านขนส่ง จึงเชื่อมั่นว่า MENA จะได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่องในวันเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มธุรกิจกลุ่มบริการ/ขนส่งและโลจิสติกส์ วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 นี้
ทั้งนี้ MENA เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 184 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท กำหนดราคา IPO หุ้นละ 1.20 บาท คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 20.69 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของบริษัทซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันหรือใกล้เคียงกันกับธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของ P/E เท่ากับ 30.8 ? 31.5 เท่า
"เราเชื่อมั่นว่า MENA จะเป็นอีกหุ้นเด่นที่ได้รับการจับตามอง ด้วยจุดแข็งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการขนส่งด้วยรถมิกเซอร์ และรถเทรลเลอร์ ที่มีการบริหารจัดการดีเยี่ยม มีแผนการขยายงานที่ค่อนข้างชัดเจน สร้างความน่าสนใจการลงทุนในระยะยาว และในช่วงครึ่งปีหลัง เรามองว่า โลจิสติกส์จะมีความต้องการจากลูกค้าในระดับสูง ขานรับมาตรการภาครัฐและเอกชนที่มีนโยบายการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นโอกาสของ MENA ให้สร้างผลประกอบการตามแผนงานที่วางไว้ได้ และหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีสตอรี่ให้ตามต่อจากโครงการในอนาคตของบริษัทฯ เป็นอีก New S-Curve รับโอกาสโลจิสติกส์ในประเทศบูม" นางยอดฤดี กล่าว