นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) เปิดเผยว่า บริษัทคาดสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศมาเลเซียหากเริ่มคลี่คลายและมีการประกาศกลับมาเปิดประเทศตามปกติจะช่วยสนับสนุนต่อความต้องการยางของ NDR เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากช่วงที่ประเทศมาเลเซียล็อกดาวน์นั้นโรงงานยางรถจักรยานยนต์หยุดการผลิตส่งผลให้ Supply ลดลง และอาจจะทำให้เกิดสภาวะสินค้าขาดตลาดได้
นอกจากนั้น คาดว่าบริษัท Fung Keong Rubber Manufactory (M) Sdn. Bhd. (FKRMM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NDR ในประเทศมาเลเซีย จะเริ่มกลับมาดีขึ้นในไตรมาส 3/64 และจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่สนับสนุนให้ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ เป็นไปเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมในปี 64 จะเติบโต 15% จากปีก่อน แบ่งเป็นรายได้ในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60% ประกอบด้วย มาเลเซีย, พม่า, ลาว, กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เป็นต้น
นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทและบริษัทย่อยได้เตรียมความพร้อม และยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิดทั้งในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และมุ่งเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
"ขณะนี้รัฐบาลมาเลเซียขยายเวลาล็อกดาวน์ทั้งประเทศ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ออกไปจากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 28 มิ.ย.64 นั้น ซึ่งทางเรามีความเชื่อมั่นว่าหากรัฐบาลมาเลเซียประกาศเปิดประเทศอีกครั้ง จะสนับสนุนต่อดีมานด์ที่จะกลับมาสูงขึ้น เพราะในช่วงล็อกดาวน์ทำให้เกิดสภาวะสินค้าขาดตลาด ซึ่งคาดว่าดีมานด์ที่กลับมาจะสามารถชดเชยรายได้ให้กลับมาเป็นปกติได้ โดยเรายังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือและปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที ขณะที่เรายังมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย ซึ่งตลาดอื่นๆ ในต่างประเทศยังมีการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะลาวและกัมพูชา" นายชัยสิทธิ์ กล่าว