ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในทวีปยุโรป และหลังจากวาณิชธนกิจเจพีมอร์แกนประกาศลดคาดการณ์ยอดขายของบริษัท Baidu.com ซึ่งเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตของจีน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 63.57 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 14,015.12 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 รูดลง 8.06 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 1,554.41 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 39.41 จุดหรือ 1.40% ปิดที่ 2,772.20 จุด
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.52 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 3 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.57 พันล้านหุ้น
นายแมทท์ เคลมอน นักวิเคราะห์จากบริษัทเคลมัวร์ สตราเทจี ฟันด์ กล่าวว่า "ข่าวที่ว่าเจพีมอร์แกนประกาศลดคาดการณ์ยอดขายของบริษัท Baidu.com ทำให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างหนัก หลังจากหุ้นกลุ่มนี้ทะยานขึ้นในช่วงเช้า"
ขณะเดียวกัน ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากที่นายเอ็กเซล เวเบอร์ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในทวีปยุโรปอาจทำให้อีซีบีต้องใช้มาตรการเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของนายเวเบอร์ทำให้นักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีทกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อทั้งในยุโรและในสหรัฐอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาทองคำและราคาน้ำมันยิ่งตอกย้ำนักลงทุนให้วิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ โดยราคาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้น 1.78 ดอลลาร์ แตะดับ 83.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยน้ำมันดิบสำรองที่ลดลงเกินคาด
ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิ้ลร่วงลง 2.7% ขณะที่หุ้นกูเกิ้ลรูดลง 0.5% หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 641.41 ดอลลาร์ในช่วงเช้า
ส่วนหุ้นวอล-มาร์ท พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากวอล-มาร์ทเปิดเผยยอดขายเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 1.4% และหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ดีดขึ้น 4.9%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--