สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (28 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2564) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 277,202.61 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 55,440.52 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 20% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 56% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 155,765 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดย กระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 79,477 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขาย เท่ากับ 14,837 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29% และ 5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB31DA (อายุ 10.5 ปี) LB29DA (อายุ 8.5 ปี) และ LB246A (อายุ 3.0 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 14,917 ล้านบาท 9,567 ล้านบาท และ 7,811 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT218B (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 775 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รุ่น CPALL248B (A-(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 766 ล้านบาท และหุ้นกู้ของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT217A (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 756 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงประมาณ 3-6 bps. ในตราสารระยะยาว ท่ามกลางความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงต่อเนื่องและการใช้มาตรการกึ่งล็อกดาวน์ของภาครัฐ ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อตราสารหนี้มากขึ้น ด้านปัจจัยต่างประเทศ อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) ของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. อยู่ที่ 5.9% มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 5.7% ขณะที่รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ จาก Conference Board (CB Consumer Confidence) เดือน มิ.ย. อยู่ที่ 127.3 มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 118.8 ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจ ในเชิงบวก
สัปดาห์ที่ผ่านมา (28 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 64) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 11,383 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิ ในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 8,712 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 2,770 ล้านบาท และมี ตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 100 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (28 มิ.ย. - 2 ก.ค. 64) (21 - 25 มิ.ย. 64) (%) (1 ม.ค. - 2 ก.ค. 64) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 277,202.61 345,585.04 -19.79% 8,146,119.83 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 55,440.52 69,117.01 -19.79% 67,884.33 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 111.22 111.07 0.14% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 105.51 105.46 0.05% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (2 ก.ค. 64) 0.36 0.45 0.48 0.59 0.83 1.75 2.27 2.71 สัปดาห์ก่อนหน้า (25 มิ.ย. 64) 0.35 0.45 0.48 0.61 0.86 1.81 2.3 2.76 เปลี่ยนแปลง (basis point) 1 0 0 -2 -3 -6 -3 -5