นายไพบูลย์ นลินทรางกูร กรรมการผู้จัดการ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ามียอดส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจอนุพันธ์ 4% ในปี 51 จากปีนี้ที่อยู่ในระดับ 1.2% โดยคาดว่าระยะต่อไปตลาดออพชั่นจะได้รับความนิยมจากนักลงทุนต่างประเทศและนักลงทุนสถาบันมากขึ้น รวมทั้งบริษัทเตรียมชักจูงดอยช์แบงก์ในฐานะพันธมิตรให้เข้ามาลงทุนในตราสารอนุพันธ์ของไทยเพิ่มขึ้น
บล.ทิสโก้ มองว่าในระยะเริ่มต้นของการเทรดอนุพันธ์ประเภทออพชั่นที่จะเริ่มในวันที่ 29 ต.ค.นี้ น่าจะมีนักลงทุนรายย่อยที่เข้ามาเทรดเป็นหลัก แต่หลังจากที่มีปริมาณเทรดเกิน 1 หมื่นสัญญา/วัน จากเริ่มแรกที่คาดว่าจะมี 6 พันสัญญา/วัน คงทำให้นักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจ
ปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตติ้ง 80 คน และ 3 ใน 4 ได้ไลเซนส์ในการซื้อขายอนุพันธ์แล้ว และมีลูกค้าที่ซื้อขายตราสารอนุพันธ์เปิดบัญชีกับบริษัทแล้ว 200 บัญชี โดยในปี 51 คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นเป็น 500 บัญชี ซึ่งสัดส่วนนักลงทุนในอนุพันธ์ประเภทฟิวเจอร์ของบล.ทิสโก้ เป็นรายย่อย 40% ต่างชาติ 35% และสถาบันในประเทศ 25%
อย่างไรก็ตาม หลังจากตลาดอนุพันธ์จะเติบโตเต็มที่อย่างขัดเจนในปี 51 บริษัทจะมีการพูดคุยกับดอยช์แบงก์ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเชิญชวนให้เข้ามาลงทุนในตราสารอนุพันธ์ในประเทศไทย เชื่อว่าจะได้รับความสนใจ โดยเฉพาะอนุพันธ์ประเภทออพชั่น เนื่องจากการลงทุนไม่ต้องจ่ายเงินทั้งจำนวน แต่เป็นการชำระเพียงส่วนต่างเท่านั้น
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในการเทรดวันแรกจะมีอนุพันธ์ประเภทออพชั่นเข้าเทรด 88 รุ่น หลังจากนั้นจะเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาด และในอนาคตเชื่อว่าปีหน้าตลาดหลักทรัพย์จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ตราสารอนุพันธ์ประเภทที่อ้างอิงสินค้าประเภทอื่นนอกเหนือจาก SET50 เข้ามาเพิ่มมากขึ้น อาทิ ออพชั่นที่อ้างอิงหุ้นรายตัว ในส่วนของฟิวเจอร์คาดว่าจะมีการผลักดันฟิวเจอร์ที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยหรือทองคำ เข้ามาเทรด
หากมีตลาดอนุพันธ์มีสภาพคล่องที่ดีก็น่าจะดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามาได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากประเทศที่มีอนุพันธ์มาก่อนหน้าไทย อย่างไต้หวัน หรือ เกาหลี มีมูลค่าการซื้อขายของตลาดอนุพันธ์สูงกว่ามูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นถึง 10 เท่า
นายไพบูลย์ ยังเชื่อว่า บล.ทิสโก้จะมีความสามารถในการเพิ่มจำนวนลูกค้า เพราะได้เริ่มต้นทำความเข้าใจและให้ความรู้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการอบรมเจ้าหน้าที่การตลาด และทิสโก้เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นเรื่องบทวิเคราะห์สูงอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเตรียมพร้อมสำหรับให้กองทุนและต่างประเทศเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในอนุพันธ์ก็ต้องมีการเตรียมระบบ back offiice และ risk management ที่ดีด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/ศศิธร/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--