ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,583.04 จุด ลดลง 8.39 จุด (-0.53%) มูลค่าการซื้อขายราว 39,151 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,587.70 จุด และระดับต่ำสุด 1,581.18 จุด
นายวิจิตร อายะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงคล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบ หลังราคาน้ำมันปรับตัวลง เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินบาทอ่อนค่า รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของสหรัฐฯทั้งระยะสั้น และระยาวต่างถอยลงมาด้วย โดย Bond yield อายุ 10 ปีลงมา 1.35% แล้ว ซึ่งได้ถอยลงเรื่อย ๆ จากที่นักลงทุนหันไปซื้อพันธบัตรสหรัฐฯเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ช่วงสั้นตลาดพักฐานย้ายไปลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น หลังสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 60.1 ในเดือน มิ.ย. จากระดับ 64.0 ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 63.5 ทำให้เห็นว่ามีหลายปัจจัยกดดันการลงทุน
ส่วนบ้านเรายังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ไม่ดีขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ทำนิวไฮกว่า 6 พันราย ปัจจัยดังกล่าวทำให้ตลาดฯปรับตัวลงในช่วงเช้ามาทดสอบใกล้ 1,580 จุด ตอบรับทั้งปัจจัยลบจากในประเทศและต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้แรงหนุนจากการเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มส่งออกได้บ้าง โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอาหาร ตอบรับผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวแดนลบในลักษณะซึม ๆ และคาดว่าบ่ายนี้ตลาดยุโรปน่าจะติดลบ พร้อมให้ติดตามคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมของวันที่ 15-16 มิ.ย. ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ โดยให้แนวรับ 1,580-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
MENA มูลค่าการซื้อขาย 5,068.32 ล้านบาท ปิดที่ 2.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,386.80 ล้านบาท ปิดที่ 117.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,103.34 ล้านบาท ปิดที่ 109.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 969.48 ล้านบาท ปิดที่ 94.50 บาท ลดลง 1.75 บาท CBG มูลค่าการซื้อขาย 750.40 ล้านบาท ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง 0.50 บาท